นางเบญจา หลุยเจริญรักษาการรมช.คลัง เปิดเผยว่าตัวเลขการจัดเก็บภาษีของ 3 กรมภาษี คือ กรมศุลกากร และกรมสรรพสามิตและกรมสรรพกรในช่วงเดือนพ.ย.ที่ผ่านมาต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้เนื่องจากเป็นช่วงชุมนุมทางการเมืองทำให้ประชาชนไม่กล้าจับจ่ายใช้สอยเพราะต้องการรอดูสถานการณ์ว่ามีความรุนแรงมากน้อยแค่ไหน ซึ่งเชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะเป็นช่วงระยะสั้นเท่านั้นเมื่อเหตุการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ ทำให้เกิดความเชื่อมั่นทั้งในประเทศและต่างประเทศจะส่งผลให้กำลังซื้อของผู้บริโภคและการลงทุนของภาคเอกชนกลับคืนมาเหมือนเดิม อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าในช่วงเทศกาลปีใหม่ประชาชนจะจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้นอาจทำให้ตัวเลขจัดเก็บรายได้ในเดือนธ.ค.ปรับตัวดีขึ้นแต่แผนจัดเก็บภาษีในปีหน้าจะเป็นอย่างไรนั้น ต้องดูภาวะเศรษฐกิจในประเทศและนโยบายของรัฐบาลใหม่ สำหรับความคืบหน้าเรื่องการประกาศใช้โครงสร้างอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาใหม่นั้น เชื่อว่าจะประกาศได้ในเร็ว ๆ นี้ซึ่งจะทำให้บุคคลธรรมดาที่ต้องเสียภาษีรายได้ปี56 สามารถยื่นแบบชำระแบบภาษีในปี 57 ได้ทันที โดยขณะนี้กรมสรรพากรได้เตรียมแบบฟอร์มการเสียภาษีในอัตราใหม่แล้ว ส่วนโครงสร้างอัตราภาษีบุคคลธรรมดาใหม่มี7ขั้นประกอบด้วยบุคคลธรรมดาที่มีรายได้สุทธิไม่เกิน150,000บาทยังได้รับการยกเว้นภาษีเหมือนเดิมส่วนผู้มีรายได้ตั้งแต่150,001บาท ถึง300,000บาท เสียภาษีในอัตรา5%ลดลงจาก10%,ผู้ที่มีรายได้แต่300,001บาทขึ้นไป ถึง500,000บาท เสียในอัตรา10%,ตั้งแต่500,001บาทขึ้นไป ถึง750,000เสียในอัตรา15%,ตั้งแต่750,001บาทขึ้นไป ถึง1ล้านบาท เสียในอัตรา20%,ตั้งแต่1ล้านบาทขึ้นไป ถึง2ล้านบาท เดิม30%เหลือ25%,ตั้งแต่2ล้านบาทขึ้นไป ถึง4ล้านบาท เสียในอัตรา30%และตั้งแต่4ล้านบาทขึ้นไป เสียภาษีในอัตรา35%จากเดิม 37%

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : พิษการเมืองกระทบยอดเก็บภาษีระยะสั้น

Posts related