นายอดิศร เสริมชัยวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย เปิดเผยว่า ปัญหาความไม่แน่นอนทางการเมืองทำให้ลูกค้าระดับกลางที่มีสินทรัพย์การลงทุนกับธนาคาร  1ล้านบาทขึ้นไปและลูกค้าระดับบนที่มีสินทรัพย์ลงทุนประมาณ  10 ล้านบาทขึ้นไปเริ่มหันมาฝากเงินระยะยาวเพิ่มขึ้น เนื่องจากไม่มั่นใจในภาวะเศรษฐกิจ  ประกอบกับแนวโน้มดอกเบี้ยนโนบายมีทิศทางขาลงเห็นได้จากหน่วยงานหลายแห่งคาดการณ์ว่าในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินในวันที่ 12 มี.ค.นี้จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.25% มาอยู่ที่ระดับ 2% จึงทำให้ลูกค้านำเงินมาฝากกับธนาคารพาณิชย์หรือลงทุนในกองทุนรวมเพิ่มขึ้น  โดยตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันมียอดเงินฝากเพิ่มขึ้นสุทธิ 5,000-6,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 2-3 % ซึ่งส่วนใหญ่มาจากนิติบุคคลสูงถึง 3,000-4,000  ล้านบาท ที่เหลือเป็นบุคคลทั่วไป  “ช่วงสถานการณ์ปกติ ผู้ฝากเงินนิยมฝากเงินในระยะสั้น เช่น ประจำ 3- 5 เดือน มีสัดส่วนสูงถึง 60-70 % ของเงินฝากทั้งหมด แต่เมื่อเศรษฐกิจชะลอทำให้ผู้ฝากเงินนิยมล็อกเงินฝากระยะยาวเพิ่มขึ้น เห็นได้จากแคมเปญดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 8 เดือนดอกเบี้ย 2.88 % ของธนาคารในช่วงเปิดแคมเปญ 2 สัปดาห์ มีเงินฝากเข้ามา 2,000 ล้านบาท และในช่วง 45 วันที่ผ่านมา มีเงินไหลเข้ามาถึง 4,000 ล้านบาท” สำหรับกรณีที่มีการแห่ถอนเงินจากธนาคารออมสินนั้น  ทำให้เงินฝากส่วนหนึ่งไหลมาที่ธนาคารพาณิชย์ โดยธนาคารขนาดใหญ่เงินไหลเข้ามากกว่า 10,000 ล้านบาท แต่ในส่วนของธนาคารมีเงินฝากเข้ามาประมาณ 1,000 ล้านบาท  ซึ่งปีนี้ตั้งเป้ายอดเงินฝากลูกค้ารายย่อยทั่วไปและบุคคลธนกิจเพิ่มอีก 34,000 ล้านบาท หรือเติบโต 32% จากเดิมอยู่ที่ 140,000 ล้านบาท  ขณะที่สินเชื่อปล่อยใหม่ที่มีหลักประกันอยู่ที่ 22,000 ล้านบาท และไม่มีหลักประกันอยู่ที่ 10,200 ล้านบาท หรือเติบโต 44%  และคาดว่าจะมีฐานลูกค้าใหม่เพิ่มอีก 200,000 ราย จากปัจจุบันอยู่ที่ 500,000 ราย   

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : พิษการเมืองลูกค้าแห่ฝากเงินระยะยาวเพิ่ม

Posts related