รายงานข่าวจาก ฟิทช์ เรทติ้ง สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (เครดิต) เปิดเผยถึงกรณีที่ผู้ฝากเงินได้ถอนเงินฝากกับธนาคารออมสิน ว่า ขณะนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงปัญหาทางการเมือง ที่อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อระบบธนาคารและการเงินของประเทศไทย แม้สภาพคล่องของออมสินและการสนับสนุนทางการเงินจากภาครัฐ ผ่านธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือองค์กรรัฐอื่น จะสามารถเผชิญกับความเสี่ยงได้ในระยะสั้น แต่หากปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองยังไม่มีความชัดเจนที่สิ้นสุดลงเมื่อไร และการหาแหล่งเงินทุนเพื่อสนับสนุนโครงการจำนำข้าวของรัฐบาลยังมีความไม่แน่นอน อาจส่งผลให้ความเสี่ยงของระบบธนาคารและการเงินยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้น   “ฟิทช์มองว่าความไม่สงบทางการเมืองได้ส่งผลให้มีความเป็นไปได้มากขึ้นที่เศรษฐกิจจะชะลอตัวลงมากกว่าที่คาดการณ์ และส่งผลต่อเนื่องให้ความเสี่ยงของธนาคารไทยปรับตัวเพิ่มขึ้น แม้ปริมาณการถอนเงินฝากออกจากธนาคารจะยังอยู่ในระดับที่จัดการได้ ที่รายงานว่าเงินฝากที่ไหลออกสุทธิเมื่อวันที่ 17 ก.พ.57 ประมาณ 20,000 ล้านบาท ขณะที่ธนาคารมีฐานเงินฝากรวมอยู่ที่ 1.724 ล้านล้านบาท” อย่างไรก็ตาม แม้ขณะนี้การถอนเงินฝากเพิ่มขึ้นจากธนาคารรัฐแห่งอื่น อาจจะไม่เกิดขึ้น แต่ยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงหนึ่งที่สำคัญที่จะส่งผลให้ธนาคารรัฐมีภาระที่จะต้องกู้ยืมเงินระหว่างธนาคารมากขึ้น และอาจรวมไปถึงการกู้ยืมเงินจากธนาคารกลาง โดยเชื่อว่าในระยะสั้นภาครัฐน่าจะสามารถป้องกันและบริหารจัดการความท้าทายในด้านสภาพคล่องของธนาคารรัฐได้ นายสุวิชญ โรจนวานิช ที่ปรึกษาด้านตลาดตราสารหนี้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กล่าวว่า สิ่งที่ ฟิทช์ฯออกมาระบุ เพียงต้องการเตือนธนาคารออมสินให้มีการเปิดเผยข้อมูลที่แท้จริงว่าเกิดการฝากหรือถอนเท่าไหร่ เพื่อให้รับทราบข้อมูลที่ตรงกัน โดยมองว่ากรณีดังกล่าวจะไม่ส่งผลต่อการประเมินเครดิตของประเทศ เพราะเป็นเพียงเรื่องภายในของธนาคารเท่านั้น ซึ่งปัจจุบันธนาคารออมสินยังมีเครดิตที่ดี เนื่องจากเป็นรัฐวิสาหกิจที่มีรัฐบาลค้ำประกัน 

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ฟิทช์ฯวิตกคนแห่ถอนเงิน ออมสินรับมือได้แค่ระยะสั้น

Posts related