นายประวิทย์ ประกฤตศรี กรรมการผู้จัดการกลุ่มธุรกิจพลังงานหมุนเวียน กลุ่มมิตรผล เปิดเผยว่า กลุ่มมิตรผล ได้ดำเนินโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา (โซลาร์รูฟท็อป) แห่งแรกที่โรงไฟฟ้ามิตรผล ภูเขียว จ.ชัยภูมิ คาดว่า จะผลิตไฟฟ้าได้มากกว่า 1.3 ล้านหน่วยต่อปี เนื่องจากกลุ่มมิตรผลเห็นว่า ปัจจุบันน้ำมันและก๊าซธรรมชาติมีราคาสูง และไทยต้องพึ่งพาแหล่งพลังงานจากต่างประเทศ อาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพด้านพลังงานในระยะยาว จึงให้ความสำคัญกับการพัฒนาธุรกิจพลังงานหมุนเวียน และในอนาคตหากได้รับอนุมัติโครงการโซลาร์รูฟท็อปเพิ่มเติมจากภาครัฐ ก็จะดำเนินโครงการนี้ในพื้นที่แห่งอื่นทั่วประเทศ“ที่ผ่านมา ได้ดำเนินการโรงไฟฟ้าชีวมวล 6 แห่งใน จ.สุพรรณบุรี สิงห์บุรี ขอนแก่น ชัยภูมิ กาฬสินธุ์ มีกำลังการผลิตรวม 400 เมกะวัตต์ และมีสัญญาการขายไฟฟ้าให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กว่า 200 เมกะวัตต์ อีกทั้งยังทำโรงงานผลิตเอทานอลจากโมลาส 3 แห่งใน จ.สุพรรณบุรี กาฬสินธุ์ ชัยภูมิ และโรงงานผลิตเอทานอล จากน้ำอ้อยสด 1แห่ง ที่จ.ตาก ซึ่งเป็นการร่วมทุนกับ บริษัทผาแดง อินดัสทรี จำกัด(มหาชน) และบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) โดยทั้ง 4 แห่ง มีกำลังการผลิตรวมกว่า 380 ล้านลิตรต่อปีต่อเนื่อง เพื่อเสริมความมั่นคงด้านพลังงานให้ประเทศ ตอนนี้เลยต่อยอดไปสู่พลังงานจากแสงอาทิตย์ ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานสะอาด ที่หมุนเวียนใช้ได้อย่างไม่มีวันหมดด้วย โดยกลุ่มมิตรผลมีโรงไฟฟ้าชีวมวลทั้งหมด”อย่างไรก็ตาม ปีนี้ภาครัฐมีนโยบายส่งเสริมให้เกษตรกรหันมาปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อย แทนการปลูกข้าวในพื้นที่ที่ไม่เหมาะสมเช่น นาดอน จึงคาดว่าจะทำให้มีพื้นที่ปลูกอ้อยเพิ่มมากขึ้น และมีแนวโน้มที่ผลผลิตอ้อยโดยรวมทั้งปีจะสูงกว่า 100 ล้านตัน ส่งผลให้ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับอ้อย และน้ำตาล อย่าง โรงไฟฟ้าชีวมวล และโรงงานเอทานอล ขยายตัวตามไปด้วย กลุ่มมิตรผลจึงรองรับการขยายตัวดังกล่าว ด้วยการขยายโรงไฟฟ้าชีวมวล และโรงงานผลิตเอทานอลในพื้นที่เดิม รวมทั้งเสริมเครื่องจักร ซึ่งใช้เทคโนโลยีจากต่างประเทศ ที่สะอาด ปลอดภัย และทันสมัย เชื่อมั่นว่าปีนี้ กลุ่มธุรกิจพลังงานหมุนเวียนของเราจะเติบโตได้ถึง 10% และเป็นผู้นำด้านธุรกิจไฟฟ้าชีวมวล และเอทานอลได้อย่างต่อเนื่อง"นอกจากนี้ ยังมีแนวคิดในการพัฒนาโครงการพลังงานทดแทนที่สะอาด และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น จึงได้เปิดตัวโครงการโซลาร์รูฟท็อปแห่งแรก ณ โรงไฟฟ้ามิตรผล ภูเขียวโดยใช้งบประมาณลงทุนกว่า 56 ล้านบาท ในการติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ขนาด 989 กิโลวัตต์ บนหลังคาอาคารบ่อเก็บโมลาส ซึ่งคาดว่าจะผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้มากกว่า 1.3 ล้านหน่วยต่อปี เทียบเท่ากับการลดใช้น้ำมันดิบได้มากกว่า 100 ตันต่อปี และช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้กว่า 700 ตันคาร์บอนต่อปี

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : มิตรผลเปิดตัวโซลาร์รูฟท็อป

Posts related