ปัญหามือถืออัจฉริยะแบตหมดบ่อย ๆ มักจะนำเรื่องความหงุดหงิดให้ผู้ใช้มือถือได้เรื่อย ๆ แน่นอนละ ถ้าออนไลน์โหมดซึ่งจะต้องส่งภาพ ส่งวิดีโอ ดูเนวิเกเตอร์เพื่อให้ดูเส้นทางระหว่างขับรถ แบตหมดเร็วต้องชาร์จกับรถยนต์ช่างน่าเบื่อ ลองมาฟังคำแนะนำเหล่านี้บ้าง คำแนะนำเหล่านี้ดูเหมือนเป็นเรื่องง่ายแต่ หลายคนมักจะไม่ค่อยได้คิด เพราะเวลาแบตเตอรี่บนมือถือหมดในยามที่เราต้องการใช้จริง ๆ จะยิ่งแย่ เช่น อาจจะมีญาติป่วยเป็นโรคหัวใจ ต้องการรถพยาบาลหรือแพทย์ด่วนแต่แบตเตอรี่มือถือหมด แค่ 15 หรือ 20 นาทีเท่านั้นอาจจะทำให้เรื่องราวเปลี่ยนไปเลยก็ได้ ลองมาดูคำแนะนำดังนี้ครับ ข้อแรก เราจะชาร์จแบตเตอรี่บนมือถือตอนไหนดี บางท่านเห็นแบตยุบนิดหน่อยก็ชาร์จ บางท่านชาร์จตลอดเวลาจนแบตเต็มตลอด แต่จะหาที่เสียบไฟชาร์จตลอดเวลาคงไม่ได้ ตรงนี้จะต้องรู้ว่าวัสดุที่ใช้ทำแบตเตอรี่ได้รับการพัฒนามาโดยตลอด ที่ดีสุดมักจะเป็นเรื่องที่ว่าชาร์จให้เต็ม 100% และหลังจากนั้นใช้จนหมดเกือบศูนย์แล้วค่อยชาร์จใหม่ ก็ถือว่าจะได้ประสิทธิภาพสูงสุดแบตเตอรี่จะได้ไม่เสียหายเร็วกว่าอายุที่ควรจะเป็น แต่ในปัจจุบันวัสดุอย่าง ลิเทียม ไอออน แบตเตอรี่ ใช้ดีที่สุดอยู่ที่ระหว่างต่ำสุดให้อยู่ที่ 20% สูงสุดอยู่ที่ 80% หรือ 20/80 ซึ่งก็คือถ้าห็นต่ำกว่า 20% แล้วค่อยชาร์จ ถ้าหากเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่มีไม่มาก ก็ไม่ควรต่ำกว่า 80% แล้วค่อยใช้มือถือ ซึ่งตรงนี้ก็จะช่วยใช้แบตเตอรี่มีความจุได้ดีที่สุด ข้อสอง ในช่วงหลังจะมีบริษัทผลิตเครื่องช่วยชาร์จ เรียกว่าเพาเวอร์แบงก์ ซึ่งพกพาไปได้ เวลาแบตเตอรี่ในเครื่องหมด ก็ใช้เพาเวอร์แบงก์ช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ในเครื่องได้บ้าง แต่จะเหมือนกับการเสียบไฟฟ้าใช้เลยคงไม่ได้ คือมักจะใช้ยามจำเป็นเท่านั้น เพราะฉะนั้นเวลาใช้เพาเวอร์แบงก์ ถ้าเรายังใช้มือถือเล่นแอพมาก ๆ ก็มักจะดูดไฟในเครื่องจนเพาเวอร์แบงก์ที่ชาร์จไฟมาเรียบร้อยก็จะอยู่ได้ไม่นานเช่นกัน ปัจจุบันบริษัทกำลังพัฒนาเครื่องช่วยแบตเตอรี่เหมือนเพาเวอร์แบงก์ เพราะเทคโนโลยีการทำแบตเตอรี่ของมือถือให้ทนทานกับการใช้แอพตลอดเวลา ยังคงใช้เวลาอีกหลายปี และปัจจุบันผู้ใช้เล่นแอพมาก เลยต้องใช้กำลังไฟฟ้ามากในเครื่องมือถือ ข้อสำคัญควรทราบก็คือ การส่งเมสเสจด้วยแอพจะทำให้แบตเตอรี่ของมือถืออายุสั้นเพราะกินไฟมากในเครื่อง เพราะแอพทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นไลน์โดยเฉพาะเนวิเกเตอร์ จะมีการเช็กตลอดเวลาว่า เมสเสจเข้าเมื่อไรและแจ้งให้ผู้ใช้ทราบซึ่งตรงนี้กินไฟมากเพราะเซ็นทรัลโปรเซสเซอร์ต้องทำงานตลอดเวลา ถ้าใช้แอพมากก็จะต้องกินไฟมากแน่นอน ข้อสาม มือถือร้อน ถ้ามือถือร้อนต้องให้รู้เลยว่าเกิดจากการใช้แอพหรือมือถือคุยนาน ๆ ไม่หยุด และจะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็ว ช่วยไม่ได้ ต้องพยายามหลีกเลี่ยง ยิ่งร้อนแสดงว่าแบตเตอรี่เสื่อมในอัตราเร็วขึ้น ถ้าแบตเตอรี่เริ่มร้อนก็ควรจะหยุดใช้ แล้วผู้ใช้มือถือจะทำอย่างไรดี เพื่อให้อายุของแบตเตอรี่มีอายุนานขึ้นแนะนำให้ชาร์จแบตเตอรี่บ่อย ๆ โดยใช้กฎ 20/80 นั่นแหละ ถ้าหากมีเวลาพอก็ชาร์จให้เต็มที่ 100% ไปเลยและก็ใช้หมดจนเหลือศูนย์หรือมีเสียงเตือนแล้วค่อยชาร์จใหม่ อีกอย่างในช่วงกลางวันก็ลดโหมดความสว่างให้น้อยลงบนหน้าจอเพราะไม่จำเป็น ถ้าเวลาไม่ได้ใช้แอพเลือกใช้โหมดที่หยุดใช้แอพเพื่อจะได้ลดการใช้ไฟในเครื่อง และบางทีในยามจำเป็นมาก ๆ การมีแบตเตอรี่เหลือใช้แค่ 15 หรือ 20 นาทีอาจจะช่วยชีวิตคนได้ ก็พยายามมีเพาเวอร์แบงก์ที่ชาร์จเต็มที่เอาไว้เผื่อด้วยก็จะดี คำแนะนำง่าย ๆ แต่อาจจะมีประโยชน์ไม่น้อย. รศ.ดร.บุญมาก ศิริเนาวกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด Boonmark@stamford.edu  

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : มือถือแบตหมด – โลกาภิวัฒน์

Posts related