นายเกียรติอนันต์ ล้วนแก้ว ผู้อำนวยการศูนย์วิจัย มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เปิดเผยว่า ศูนย์ได้ประเมินการประท้วงต่อต้านพ.ร.บ.นิรโทษกรรมของประชาชนจะไม่กระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศมากนักในกรณีที่มีการชุมนุมเฉพาะพื้นที่และไม่ได้มีการใช้กำลังในการสลายการชุมนุม เนื่องจากเป้าหมายการท่องเที่ยวของต่างชาติอยู่ในบริเวณแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ เช่น พัทยา ภูเก็ต เชียงใหม่ หาดใหญ่ เป็นต้น “หากการชุมนุมไม่ลุกลามไปในแหล่งท่องเที่ยวและในกรณีที่ทั้งสองฝ่ายไม่ใช้ความรุนแรงก็ไม่กระทบต่อท่องเที่ยวมากนัก หากกระทบก็มีบ้างในระยะสั้นๆ แต่เมื่อรวมทั้งปีจะเห็นได้ว่าผลกระทบเหล่านี้ไม่ได้ทำร้ายอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมากอย่างที่มีการกล่าวอ้างกัน โดยสาเหตุที่ปริมาณนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่ลดลงมากเพราะเข้าใจวัฒนธรรมการประท้วงของคนไทยดี” ทั้งนี้จากข้อมูลพบว่า เหตุการณ์ในระยะหลังเกี่ยวกับการเมืองในปี 49 ที่เกิดเหตุการณ์ม็อบขับไล่รัฐบาลจนเกิดการรัฐประหารมีนักท่องเที่ยวจากต่างเข้าไทยประมาณ 13.8 ล้านคน เพิ่มจากปี 48 ประมาณ 20% และ การชุมนุมประท้วงที่ราประสงค์ในปี 53 ซึ่งมีการเสียชีวิตและรุนแรงมาก แต่กลับมีนักท่องเที่ยว 15.9 ล้านคน เพิ่มจากปี 52 ประมาณ 13% แสดงให้เห็นว่าปัจจัยทางการเมืองทั้ง 2 เรื่องนี้ ไม่ได้มีผลกระทบต่อจำนวนนักท่องเที่ยวเลย จึงไม่ใช่ข้ออ้างอิงทีไม่มีน้ำหนักเพียงพอที่มองว่าการต่อต้านนิรโทษกรรมทำให้ท่องเที่ยวเสียหายมูลค่ามหาศาล

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ม็อบต่อต้านนิรโทษกรรมไม่กระทบภาคท่องเที่ยว

Posts related