นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ โฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศระหว่างเดือนม.ค. – พ.ค. มีปริมาณ 367,112คัน ลดลง 42.2%เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเนื่องจากปีนี้ไม่มีการส่งมอบรถยนต์ โครงการรถคันแรก และสถานการณ์การเมืองช่วงเวลาดังกล่าว ยังไม่คลี่คลายรวมทั้งสภาพเศรษฐกิจชะลอตัวรวมทั้งโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐชะลอออกไป ส่วนยอดขายรถยนต์เฉพาะเดือนพ.ค. มีจำนวน69,681 คัน ลดลง 37.7% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้เมื่อแยกประเภทชนิดรถยนต์พบว่าในช่วง 5 เดือน ยอดขายรถยนต์นั่ง ลดลง 50.10%รถกระบะลดลง 36.10%รถบรรทุก 49.43%รถยนต์นั่งตรวจการ เพิ่มขึ้น 6.70% และรถยนต์ชนิดอื่นๆลดลง 41.79% ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 718,755คัน ลดลง 20.81%ซึ่งหลังจากที่คณะรักษาความมั่นคงแห่งชาติ (คสช.)เข้ามาบริหารประเทศ ทำให้ความวุ่นวายทางการเมืองเข้าสู่ภาวะสงบ รวมทั้งยังได้อนุมัติเงินจำนำข้าวให้กับชาวนา และการออกมาตรการเร่งการเบิกจ่ายงบปี 57 และผลักดันงบโครงการก่อสร้างกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นจำนวนมาก เชื่อว่าทำให้คาดว่ายอดขายรถยนต์ภายในประเทศครึ่งปีหลังจะดีขึ้นแน่นอน“เชื่อว่ากลุ่มรถกระบะ รถยนต์ขนาดเล็ก และรถจักรยานยนต์ จะปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นกลุ่มแรกส่วนยอดขายทั้งปีจะอยู่ในระดับใดนั้นขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลจากค่ายรถยนต์ต่างๆโดยในเดือนก.ค.จะสามารถเปิดเผยตัวเลขการประมาณการใหม่ได้ชัดเจน”

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ยอดขายรถยนต์ร่วง 42%

Posts related