นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ขณะนี้ กรมฯได้ทำเรื่องถึงกระทรวงการคลัง เพื่อขอใช้เงินคงคลังวงเงิน 8,600 ล้านบาท มาจ่ายให้กับผู้ใช้สิทธิรถคันแรกได้อย่างต่อเนื่องไม่เกิดการสะดุด เนื่องจากที่ผ่านมาการตั้งงบประมาณของปี 57 ไม่เพียงพอ โดยแนวทางดังกล่าว สำนักงบประมาณเป็นผู้เสนอให้กระทรวงการคลัง แทนการขอใช้งบกลาง เพราะมีความคล่องตัวกว่า ซึ่งเงินที่ขาดจริงมีอยู่ประมาณ 5,000 กว่าล้านบาท แต่สำนักงบประมาณให้ขอเงินคงคลังครั้งเดียว 8,600 ล้านบาท เพื่อให้นำเงินงบประมาณ 3,600 ล้านบาท มาใช้คืนงบกลางที่ยืมไปก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ การใช้เงินคงคลัง เป็นอำนาจของนายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง ที่สามารถอนุมัติได้ทันที และการทำงบประมาณในปีต่อไปก็ต้องตั้งเงินมาใช้คืนเงินคงคลัง เพราะหากใช้งบกลางต้องทำเรื่องผ่านสำนักงบประมาณ และให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เห็นชอบ ซึ่งอาจต้องใช้เวลานานและได้เงินมาไม่ทันจ่ายให้กับผู้ใช้สิทธิในเดือน ก.ค.-ก.ย. ที่เป็นช่วงท้ายของงบประมาณปี 57 “การขอใช้งบประมาณ 57 ของกรมสรรพสามิตจนถึงปัจจุบันได้จ่ายเงินรถคันแรกไปครบ 40,000 ล้านบาท ตามงบประมาณที่ตั้งไว้แล้ว ดังนั้น จึงต้องได้รับการอนุมัติให้ทันวันที่ 9 ก.ค.นี้ ไม่เช่นนั้นก็จะไม่มีเงินจ่ายคืนประชาชนในอีก 3 เดือนที่เหลือ คือตั้งแต่เดือน ก.ค.-ก.ย.นี้” สำหรับการดำเนินการให้ผู้ใช้สิทธิขอคืนรถคันแรกอีกประมาณ 100,000 ราย ยังไม่มารับมอบรถ ได้ขอให้ค่ายรถยนต์ต่างเร่งทำประชาสัมพันธ์กับผู้จองรถให้มารับรถภายในวันที่ 31 ก.ย.นี้ เพื่อที่จะปิดโครงการรถคันแรก อย่างไรก็ตามกรมสรรพสามิตไม่สามารถไปตัดสิทธิกับผู้ยังไม่มาใช้สิทธิได้ เนื่องจากการประกาศโครงการตั้งแต่แรกไม่ได้ระบุว่าต้องรับรถภายในปีไหน

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ยืมเงินคงคลังจ่ายรถคันแรก

Posts related