วันนี้ (29 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ถึงบรรยากาศการเปิดรับยื่นเอกสารเพื่อเข้าร่วมประมูลช่องทีวีดิจิทัล 24 ช่อง วันที่ 2 ถือเป็นวันสุดท้ายในการเปิดยื่นเอกสาร หลังจากที่เปิดยื่นไปแล้วเมื่อวันที่ 28 ต.ค. โดยช่วงเช้าวันนี้ตั้งแต่เวลา 09.00 น. มีบริษัทเอกชนเข้ายื่นซองเอกสารแล้ว 9 บริษัท ประกอบด้วย บริษัท บีอีซี-มัลติมีเดีย จำกัด บริษัทในเครือเนชั่น และมายื่นซ่อมหลังจากเมื่อวันที่ 28 ต.ค.เอกสารไม่ครบทั้ง 3 ช่อง คือช่องเด็ก ช่องเอสดี และช่องข่าว บริษัท โมโน บรอดคาซท์ จำกัด และบริษัท โมโน เจนเนอเรชั่น จำกัด ในเครือบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ยื่นช่องเอสดีกับช่องข่าว, บริษัท บางกอก มีเดีย แอนด์บรอดคาสติ้ง จำกัด ของตระกูลปราสาททองโอสถ ยื่นช่องเอสดีกับเอชดี, บริษัท สปริงนิวส์ เทเลวิชั่น จำกัด ยื่นช่องข่าว, บริษัท ทรู ดีทีที จำกัด ยื่นช่องเด็กกับเอสดี และบริษัท ไทยนิวส์เน็ตเวิร์ค ของเครือทรู ยื่นช่องข่าว ทั้งนี้ ช่องทีวีดิจิทัลประเภทความคมชัดมาตรฐานหรือสแตนดาร์ดเดฟฟิเนชั่นยังได้รับความสนใจที่จะเข้าประมูลมากที่สุดเช่นวานนี้ รองลงมาเป็นช่องข่าว และช่องเด็ก พ.อ.นที ศุกลรัตน์ รองประธาน กสทช.และประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) กล่าวว่า เมื่อรวมจำนวนบริษัทที่ยื่นซองช่วงเช้าวันนี้ (29 ต.ค.56) กับเมื่อวันที่ 28 ต.ค.56 รวมเป็น 29 บริษัท ซึ่งใกล้เคียงกับจำนวนบริษัทที่เข้าซื้อซองที่ 33 บริษัท เมื่อวันที่ 10-12ก.ย.56 ที่ผ่านมา ซึ่งสามารถเปิดประมูลได้ตามหลักเกณฑ์ของการประมูล สำหรับวันนี้จะเป็นขั้นตอนการรับเอกสารและตรวจสอบความครบถ้วนของเอกสารเช่นวันแรก หลังจากนั้นจะใช้เวลา 45 วันในการตรวจสอบความถูกต้องและคุณสมบัติของบริษัทที่จะมีสิทธ์เข้าร่วมประมูล “วันนี้ ถือเป็นวันสุดท้ายที่สำนักงาน กสทช.เปิดให้เอกชนที่สนใจเข้าร่วมประมูลทีวีดิจิทัล ยื่นเอกสารตั้งแต่เวลา 09.00 น. ซึ่งหากรวมวันที่ 28 ต.ค.จนถึงขณะนี้เวลา 11.30 น. มีเอกชนมายื่นซองแล้ว 29 บริษัท 40 ช่องรายการ ถือว่าเกือบครบทุกรายจากที่ซื้อเอกสาร 33 บริษัท 49 ช่อง” พ.อ.นที กล่าว ทั้งนี้ หากพิจารณาจำนวนผู้ยื่นเอกสาร ใน 4 กลุ่มช่องรายการถือว่าเกินกว่าเกณฑ์ที่กสทช.กำหนด เพื่อให้การประมูลแต่ละกลุ่มเกิดขึ้นได้ ประกอบด้วย ช่องรายการเด็กเยาวชน กสทช.กำหนดให้มี 3 ช่อง มีผู้ยื่นประมูลอย่างน้อย 6 ราย, ช่องรายการข่าว กำหนดให้มี 7 ช่อง มีผู้ยื่นประมูลอย่างน้อย 10 ช่องรายการทั่วไป ความคมชัดปกติ หรือ สแตนดาร์ต เดฟ กำหนดให้มี 7 ช่อง มีผู้ยื่นประมูลอย่างน้อย 16 ราย มากที่สุดของทุกกลุ่ม และช่องความคมชัดสูง หรือ ไฮดิฟฟิเนชั่น กำหนดให้มี 7 ช่อง มีผู้ยื่นประมูลแล้ว 8 ราย สำหรับการตรวจสอบคุณสมบัติ หากไม่มีปัญหาคาดว่าจะจัดประมูลได้ภายในปลายปีนี้ตามกำหนด ส่วนรูปแบบการประมูล กสทช.กำหนดให้เริ่มประมูล ช่องรายการทั่วไป (เอชดี) เป็นกลุ่มแรก ตามด้วย กลุ่มช่องรายการทั่วไป (เอสดี), ช่องรายการข่าว และช่องเด็ก

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ยื่นเอกสารประมูลทีวีดิจิทัลวันที่ 2

Posts related