“นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ” รองนายกรัฐมนตรี และ รมว . คลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้มีความผิดหวังอย่างมากกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยในช่วง 3 ไตรมาสของปี 56 ( ม . ค . – ก . ย .) เนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังมีความผันผวนอยู่ทั้งจากปัจจัยภายนอกและภายในประเทศ โดยเฉพาะแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยบางโครงการที่ล่าช้า เช่น โครงการบริหารจัดการน้ำ 350,000 ล้านบาท และ โครงการระบบขนส่งมวลชน 2 ล้านล้านบาท เป็นต้น ทั้งนี้ประเทศไทยมีความต้องการโครงการลงทุนขนาดใหญ่มากระตุ้นเศรษฐกิจ แต่หากหลายฝ่ายได้แสดงความกังวลต่อความไม่โปร่งใส ภาครัฐก็ขอให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในการตรวจสอบได้ เพื่อให้โครงการต่างๆ หากไม่มีปัญหาอะไรขัดข้องเชื่อว่าทั้ง 2 โครงการสามารถเดินหน้าได้ในปี 57 ขณะเดียวกันขอให้ทุกฝ่ายสบายใจได้ว่าทั้ง 2 โครงการนี้จะไม่ทำให้ประเทศไทยมีหนี้สาธารณะเกินกว่า 50 % ของจีดีพีแม้แต่วินาทีเดียว เพราะรัฐบาลจะทะยอยการลงทุนภายใน 7 ปี “ส่วนตัวเลขจีดีพีที่สศช . ประกาศไตรมาส 3 ที่โต 2.7 % เป็นที่น่าพอใจหรือไม่นั้น ต้องติดตามได้จากดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ แต่การส่งออกที่อยู่ระดับ 0% ไม่ได้ทำให้ไทยหมดความสามารถการแข่งขัน เพราะหากเปรียบเทียบกับต่างประเทศหลายประเทศส่งออกติดลบ เป็นผลมาจากการค้าระหว่างกันลดลง ซึ่งหากมองในภาพรวมดุลการค้าของไทยยังมีความสมดุล สำหรับตัวเลขจีดีพีทั้งปีที่อยู่ 3% นั้น เป็นการคาดการณ์ของสศช . ถ้าต้องการให้จีดีพีโตมากกว่านี้รัฐจำเป็นต้องทำงานให้หนักขึ้น”

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : รมว.คลังผิดวังตัวเลขจีดีพี

Posts related