ที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมา นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง พร้อมทั้งนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ และนายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรมช.เกษตรฯ ได้ร่วมแถลงข่าวเกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าว โดยนายกิตติรัตน์ เปิดเผยว่า ในสัปดาห์หน้าจะเข้าไปชี้แจงต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ถึงกรณีการกู้เงินเพื่อใช้ในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี 56/57 โดยคาดว่า กกต.จะเห็นชอบให้ดำเนินการได้ ขณะเดียวกันยังได้มอบหมายให้นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รมช.คลัง ลงพื้นที่ทำความเข้าใจกับชาวนา ว่า การจ่ายเงินให้ชาวนาที่ล่าช้านั้น สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่เป็นปัญหาของรัฐบาลที่จะหน่วงเหนี่ยวเวลาหรือไม่มีเงิน แต่การจ่ายเงินนั้น ต้องผ่านขั้นตอนทางกฎหมายอย่างครบถ้วนก่อนจึงสามารถดำเนินการได้ “ต้องขออภัยที่การดำเนินการอาจทำให้เกษตรกรได้เงินล่าช้าไป แต่เชื่อว่าเกษตรกรจะเข้าใจเพราะที่ผ่านก็ไม่มีปัญหา ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้ไม่มีเงิน และมีเพียงพอ แต่การจ่ายต้องมีขั้นตอนที่ต้องให้ กกต. อนุมัติ แม้กระทั่งการระบายข้าวก็ยังต้องขออนุมัติจากกกต. ซึ่งมีเงื่อนไขการดำเนินการ ทำให้การระบายข้าวไม่ง่ายนัก ส่วนการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวได้ดำเนินมา 2 ปี รวม 4 ฤดูกาล ชำระเงินไปทั้งสิ้น 680,000 ล้านบาท ซึ่งยืนยันว่าเงินดังกล่าวถึงมือพี่น้องเกษตรกรทุกบาท ขณะที่ในปี 56/57 ได้เริ่มตั้งแต่เดือนต.ค.56 ซึ่งได้ดำเนินการต่อเนื่อง และมีการชำระเงินไปแล้วจำนวน 55,000 ล้านบาท” ส่วนกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ตั้งข้อกล่าวหากับอดีตรมว.พาณิชย์ และไต่สวนนายกรัฐมนตรีนั้น นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า เป็นเรื่องการพิจาณาของ ปปช ที่เจาะจงในการดำเนินการด้านการขาย แต่ที่สิ่งเรียนไปเป็นเรื่องของทั้งโครงการ อย่างไรก็ตามก็เป็นอำนาจปปช ที่ดำเนินไปได้ และการทำหน้าที่ขององค์การอิสระก็จะช่วยดูแลเรื่องต่างๆ ให้มีความโปร่งใส ด้านนายนิวัฒน์ธำรง กล่าวว่า ในเรื่องของการระบายข้าวสารในสต๊อกของรัฐบาลนั้น เชื่อว่าหลังการเลือกตั้ง และได้รัฐบาลแล้ว การระบายข้าวก็สามารถดำเนินการได้ตามปกติ และดียิ่งขึ้น เพราะจากการทำการตลาดที่ผ่านมา ได้พบผู้ซื้อทั้งในและต่างประเทศ คาดว่าสถานการณ์การระบายข้าวจะดีขึ้น

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : รัฐบาลเล็งหารือกกต.ขอกู้เงินใช้จำนำข้าว

Posts related