นายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ในวันที่ 21 พ.ค.นี้ กระทรวงฯ จะทำการประชุมเชิงปฏิบัติการ ด้านการท่องเที่ยว โดยมีนายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษากระทรวงฯ เป็นประธาน พร้อมกับภาคเอกชนและหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง อาทิ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กรมการท่องเที่ยว สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว (สทท.) เพื่อ หารือถึงมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว (โลว์ซีซั่น) รวมถึงในภาวะการเกิดการชุมนุมที่ยืดเยื้อ และรุนแรง ซึ่งทำให้นักท่องเที่ยวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากตลาดจีน รัสเซีย และญี่ปุ่น หากยังไม่มีกลยุทธ์การตลาดมาดึงนักท่องเที่ยว ก็จะเปลี่ยนเส้นทางไปเวียดนามแทนเพราะมีแหล่งท่องเที่ยวที่ใกล้เคียงกับไทย“จากเหตุการณ์ของประเทศในปัจจุบัน ค่อนข้างที่จะกระทบกับภาคการท่องเที่ยว โดยล่าสุด มีเหตุการณ์ ที่ผู้ชุมนุม ได้ออกมาขับไล่ นักท่องเที่ยวบนทางด่วนระหว่างเดินทางไปสนามบิน ซึ่งภาพ ได้ถูกเผยแพร่ลงไปในโซเชียลเน็ตเวิร์คต่างๆ ซึ่งส่งผลกระทบกับภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะขณะนี้กำลังเข้าสู่ช่วงโลว์ซีซั่น จำนวนนักท่องเที่ยวก็จะลดลงเรื่อย ๆ การจัดโปรโมชั่นลดราคาแพ็กเกจก็ดูจะไม่ได้ผลแล้ว อย่างไรก็ตาม ททท.ก็จะต้องปรับเป้าหมายทั้งจำนวน และรายได้จากการท่องเที่ยวลงมา เพราะไม่เช่นนั้นคงไปไม่รอด มากที่สุดก็เสมอตัวเท่ากับปีที่ผ่านมาเท่านั้น”นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว กล่าวว่า นักท่องเที่ยวจีนมาไทยปีนี้จะมีไม่ถึง 4.7 ล้านคนแน่นอน หากสถานการณ์ยังดำเนินอยู่อย่างปัจจุบันนี้ และยังไม่รู้ว่าจะทำยอดรวมได้ถึง 4 ล้านคนได้หรือไม่ เพราะเข้าสู่ช่วงไตรมาส 2 ซึ่งเป็นฤดูฝนแล้ว การกระตุ้นตลาดทำได้ไม่ง่าย รวมถึงยังกังวลว่าจะเกิดความขัดแย้งจนกลายเป็นความรุนแรงรอบใหม่หรือไม่ โดยคาดว่าปีนี้อาจจะติดลบ 10-20%นายเอนก ศรีชีวะชาติ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย ญี่ปุ่น กล่าวว่า ตั้งแต่เดือน ม.ค.-เม.ย.ผู้ประกอบการที่ทำทัวร์ นำนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นมาไทย ยกเลิกโปรแกรมไปแล้วไม่ต่ำกว่า 75% เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองที่ยืดเยื้อ ทำให้ผู้ประกอบการไม่มั่นใจที่จะทำทัวร์ ขณะเดียวกัน แม้จะมีการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯไปแล้วก็ตาม แต่ยังมีภาพข่าวเรื่องความรุนแรงนำเสนอออกมาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นบริษัททัวร์ส่วนใหญ่จึงตัดประเทศไทยออกจากแผ่นพับประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวในช่วงนี้ไปก่อน และรอให้สถานการณ์การเมืองสงบจริง ๆ จึงจะเปิดการขายได้“ต้องยอมรับว่า ปัจจุบันนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นตั้งแต่ในช่วงต้นปีลดลงไปจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มที่มากับบริษัททัวร์ ส่วนกลุ่มที่เดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเอง นั้นก็ยังมีอยู่ แต่หากเทียบเป็นสัดส่วนก็มีเพียง 40% เท่านั้น และขณะนี้ก็ยังไม่สามารถทำตลาดได้เลยเพราะ ทำไปก็ไม่มีประโยชน์ แต่หากเหตุการณ์จบภายในเดือน มิ.ย.นี้แล้ว ก็คาดว่าจะดึงตลาดให้มาเที่ยวในช่วงครึ่งปีหลังได้ แต่ก็ประเมินว่าจำนวนนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นในปีนี้จะมีเพียง 1.2 ล้านคนเท่านั้น ซึ่งน้อยกว่าปีที่ผ่านมาที่เดินทางมา 1.4 ล้านคน”ด้านนายอานุภาพ เกษรสุวรรณ์ อธิบดีกรมการท่องเที่ยว กล่าวว่า สถิตินักท่องเที่ยวต่างชาติล่าสุดเดือน ม.ค.-เม.ย. มี 8.62 ล้านคนลดลง 4.91% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นรายได้ 404,000ล้านบาท ลดลง 3.05% โดย 4 ภูมิภาคที่ตลาดหดตัวมากที่สุด ได้แก่ เอเชียตะวันออก ประกอบด้วย จีนญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ลดลง 11.6% เหลือ 4.51 ล้านคน, เอเชียใต้ลดลง 11.29% เหลือ 365,000 คน, ตะวันออกกลาง ลด 5.53% เหลือ 171,000 คน และโอเชียเนีย อาทิ ออสเตรเลีย ลดลง 0.35% เหลือ 320,000คน ส่วนตลาดที่ยังเติบโตมี 3 ภูมิภาค ได้แก่ยุโรป เพิ่มขึ้น 7.63% เป็น 2.75 ล้านคน,แอฟริกา เพิ่ม 16.6% เป็น 55,600 คน และอเมริกา เพิ่ม 0.48% เป็น 429,000 คนอย่างไรก็ตาม พบว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเยือนไทยในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ลดลง 1.72% ซึ่งถือเป็นการหดตัวลดลงเมื่อเทียบกับเดือนมี.ค. ซึ่งเคยติดลบถึง 9.39% และแม้ว่าตลาด 3 อันดับแรกหดตัวทั้งหมด ได้แก่ จีน ลดลง 21.79%, มาเลเซียลดลง 6.66%, รัสเซีย ลด 14.14% แต่พบว่าตลาดหลักในฝั่งยุโรปอย่างอังกฤษ ยังคงเพิ่มขึ้น 29.67% และเยอรมนี เพิ่มขึ้น 19.5%

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : รัฐ-เอกชน เร่งถกแผนกู้ท่องเที่ยว

Posts related