นายสันติชัย สารถวัลย์แพศย์รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์  เปิดเผยว่า  การประกาศอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต)  ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ( คสช.) จากเดิม 7%เป็น 10%มีผลในวันที่ 1ต.ค. 58นั้นกรมการค้าภายในจะต้องพิจารณาราคาสินค้าใหม่ทั้งหมดโดยเฉพาะกลุ่มสินค้าที่ติดตามดูแลเป็นพิเศษ 200 รายการซึ่งผู้ประกอบการจะต้องนำเสนอราคาสินค้าใหม่ให้กรมรับทราบเบื้องต้นจะส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าบางรายการและบางรายการสินค้าไม่ต้องปรับขึ้นราคา                 ทั้งนี้ปัจจัยที่จะนำมาคำนวณก่อนกำหนดราคาสินค้าใหม่ได้แก่ ภาวะต้นทุนการผลิตจริงของสถานการณ์ในขณะนั้น เช่น กรณีสินค้าวัตถุดิบนำเข้าหากอยู่ในช่วงที่เงินบาทแข็งค่า หรือวัตถุดิบมีราคาอ่อนตัวลงเมื่อมาคำนวณอัตราภาษีที่เพิ่มขึ้น 3% ก็ไม่ต้องปรับราคาสินค้าอีกก็ได้ ส่วนปัจจัยอื่นๆได้แก่ ราคาน้ำมัน ภาวะเศรษฐกิจในช่วงนั้นเพราะหากมีการแข่งขันสูงผู้ประกอบการเองอาจเลือกที่จะไม่ปรับราคาสินค้าแต่หันไปเน้นยอดขายให้เพิ่มขึ้นแทน                 “น่าจะเป็นในช่วง กลางปีหน้าก่อนที่จะมีการบังคับใช้แวตอัตราใหม่กรมจะต้องเรียกผู้ประกอบการมาทำความเข้าใจกันว่าราคาสินค้าใหม่ควรเป็นเท่าใดไม่ใช่ผู้ประกอบการบวกผลกระทบจากภาษี 3% ไปได้ทันที แต่ต้องนำต้นทุนการผลิตอื่นมาประกอบเพื่อประเมินผลลัพธ์ราคาที่เหมาะสม ซึ่งบางสินค้าอาจปรับขึ้นเล็กน้อยและบางสินค้าอาจไม่ต้องปรับขึ้นราคาเลยก็เป็นได้”                 แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การขึ้นแวต10% ในวันที่ 1 ต.ค. ปีหน้าจะทำให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น 0.3% โดยคำนวณตั้งแต่มีผลบังคับใช้จนสิ้นปี 58หรือผลกระทบเพียงแค่ 3 เดือน   ส่วนสาเหตุที่กระทบเงินเฟ้อเพียงเล็กน้อยเนื่องจากสินค้าที่ใช้คำนวณในตะกร้าเงินเฟ้อสัดส่วนเกือบ 50% ไม่มีภาษีมูลค่า เช่น กลุ่มอาหารสด ค่าเช่าบ้าน                 อย่างไรก็ตามเงินเฟ้อที่จะปรับเพิ่มขึ้นในเดือนต.ค.ปีหน้า 0.3% น่าจะสอดคล้องกับทิศทางเศรษฐกิจที่คาดว่าจะดีขึ้นจากการส่งออกตามแนวโน้มเศรษฐกิจโลกทำให้ผู้บริโภคมีรายได้สอดคล้องกับรายจ่ายที่เพิ่มขึ้น ไม่น่าจะส่งผลต่อการชะลอการใช้จ่ายแต่ก็ยังเป็นห่วงว่าหากผู้บริโภครับรู้ว่าสินค้าจะแพงขึ้นก็จะมีการใช้จ่ายเพิ่มสูงขึ้นอย่างผิดปกติก่อนถึงวันที่ 1 ต.ค. 2558อาจเป็นปัจจัยแฝงที่ทำให้มีการปรับราคาสินค้าขึ้นมาได้ โดยที่ไม่เกี่ยวกับการขึ้น VAT เลย                 ด้านนางสาวชุติมาบุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์  กล่าวว่า  การประกาศขึ้นอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม ในต.ค.ปีหน้า นั้น ไม่ได้เป็นเรื่องใหม่ที่น่าตกใจเพราะเป็นเรื่องที่จะต้องดำเนินการอยู่แล้ว แต่ที่ผ่านเศรษฐกิจไทยชะลอตัวลงดังนั้นรัฐบาลชุดที่ผ่านมา จึงชะลอการปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มไว้ก่อน แต่ขณะนี้เศรษฐกิจเริ่มมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น จึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมและประชาชนน่าจะรับได้ รวมถึงในปีหน้าจะมีการรวมเป็นประชาคมอาเซียนอย่างเต็มรูปแบบจึงต้องปรับอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มให้สอดคล้องกับประเทศอื่นในอาเซียนด้วย                 ขณะเดียวกันคสช. ได้ประกาศแจ้งประชาชนให้รับรู้ล่วงหน้าดังนั้นจึงเชื่อว่าประชาชนไม่น่าจะตื่นตกใจ จนชะลอการจับจ่ายใช้สอยหรือทำให้การบริโภคลง  

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ราคาสินค้าเปลี่ยนถ้าแวตขึ้น10%

Posts related