นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง  รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้เรียกหน่วยงานด้านการจัดเก็บรายได้ ทั้ง กรมสรรพสามิต กรมสรรพากร และกรมศุลกากร เข้ารายงานผลการจัดเก็บรายได้ให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม รับทราบ โดยเบื้องต้นได้รายงานว่า การจัดเก็บรายได้ในช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 57 ต่ำกว่าเป้าหมายประมาณ 20,000 ล้านบาท โดยมียอดจัดเก็บรวม 1.11 ล้านล้านบาท ซึ่งถ้าหักการขอคืนเงินภาษี และการนำเงินสมทบให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) แล้ว จะมียอดการจัดเก็บรายได้สุทธิเพียง 935,000 ล้านบาทเท่านั้น ถือว่าอยู่ในภาวะที่น่าเป็นห่วง “การจัดเก็บรายได้ที่น้อยกว่าเป้า 2 หมื่นล้านบาท เป็นตัวเลขที่น่ากังวล โดยเห็นได้ชัดจากเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเดือนแรกที่รายได้หลุดเป้า ส่งผลให้ตัวเลขรวม 6 เดือนหลุดเป้าหมายไปด้วย แต่ก็ได้ชี้แจงนายกฯ ไปว่า แม้รายได้จะต่ำกว่าเป้าแต่ก็ไม่มีข้อกังวลเรื่องการขาดดุลงบประมาณ ขณะที่การเบิกจ่ายยังล่าช้า เพราะยังอยู่ในช่วงของการเป็นรัฐบาลรักษาการ ส่วนตัวเลขรายได้ทั้งปี มีความเป็นไปได้ว่าจะเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมายเล็กน้อย ซึ่งก็ได้สั่งให้หน่วยงานที่รับผิดชอบไปดูว่าชะลอตัวอย่างไร จะแก้ไขได้อย่างไร เพราะถ้าจะต่ำกว่าเป้าจริงก็ขอให้ต่ำให้น้อยที่สุด” ทั้งนี้การจัดเก็บรายได้ที่ต่ำลงดังกล่าว มีสาเหตุหลักจากการปรับลดลงของภาษีเกือบทุกตัว ทั้งภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) เพราะที่ผ่านมาประชาชนมีความกังวลเกี่ยวกับการใช้จ่ายจึงส่งผลให้การจัดเก็บภาษีลดลง ส่วนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ก็ปรับลดลง เพราะฐานภาษีของผู้มีเงินได้ไม่ได้เพิ่มขึ้น สาเหตุใหญ่มาจากผลกระทบจากปัญหาทางการเมืองที่เกิดขึ้นในช่วงช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 56 ส่วนภาษีเงินได้นิติบุคคล แม้ว่าปัจจุบันยังไม่มีตัวเลขชัดเจนว่าปรับลดลงเท่าไหร่ เพราะยังไม่ถึงเวลาการยื่นแบบภาษีแต่จากนี้มีความน่าเป็นห่วงว่าจะปรับลดลงกว่าเป้าหมายที่วางไว้เช่นกัน ซึ่งเรื่องดังกล่าว เชื่อว่า เป็นสิ่งที่น่ากังวลสำหรับรัฐบาลใหม่ และมีผลไปถึงการจัดทำงบประมาณปี 58 ด้วย

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : รายได้พลาดเป้า 2 หมื่นล้านบาท

Posts related