ที่กรมสรรพากร วันที่ 10 ก.ย.57 นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า กรมฯได้ตรวจค้นและจับกุมผู้ประกอบการส่งออกคอมพิวเตอร์ และขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นเท็จตั้งแต่ปี 54-จนถึงปัจจุบัน เป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 600 ล้านบาท ซึ่งการทุจริตเป็นการดำเนินงานเป็นขบวนการ มีนิติบุคคลร่วมกันกว่า 50 ราย ซึ่งจับกุมผู้กระทบผิดที่เป็นตัวการใหญ่ได้กว่า 10 ราย ก็จะดำเนินคดีทางอาญาต่อไป ทั้งนี้ จากการตรวจหลักฐานยังพบว่า ขบวนการนี้ยังขายใบกำกับภาษีปลอมให้กับกลุ่มธุรกิจค้าขายคอมพิวเตอร์ เป็นมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งขายในราคา 3-4% ทำให้กรมสรรพากร เสียหายรวมจากขบวนการดังกล่าวประมาณ 2,000 ล้านบาท โดยกรมสรรพากรเตรียมดำเนินการเร่งนำเงินคืน เพราะยังมีทรัพย์สินเหลืออยู่บางส่วน รวมทั้ง กำลังสืบสาวลึกลงไปว่าถ้ามีเจ้าหน้ากรมสรรพากรเข้าไปร่วมเกี่ยวข้อง ก็จะดำเนินการขั้นเด็ดขาด นอกจากนี้ กรมฯ กำลังตรวจสอบว่าขบวนการดังกล่าว เกี่ยวข้องกับการขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มส่งออกเศษเหล็กเป็นเท็จ ทำให้กรมฯ เสียหาย 4,000 ล้านบาท โดยมีเจ้าหน้าที่สรรพากรเข้าไปเกี่ยวข้องและอยู่ระหว่างการตรวจสอบวินัยร้ายแรง คาดว่าจะสรุปผลได้ในเร็ว ๆ นี้ นายประสงค์ กล่าวว่า ขณะนี้ ความเสียหายจากการโกงภาษีช่วงที่ผ่านมา หากนับรวมทั้ง 2 กรณี และกรณีการจับกุมผู้ขายใบกำกับภาษีปลอมรายใหญ่ เมื่อช่วงต้นเดือนส.ค. จากการตรวจสอบหลักฐานพบว่ามีการขายใบกำกับภาษีออกไปให้กับกลุ่มธุรกิจก่อสร้าง เป็นมูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาท ทำให้กรมสรรพากรเสียหายรวมประมาณ 7,000 ล้านบาท ซึ่งจะต้องดำเนินการนำภาษีที่ถูกทุจริตไปคืนมา อย่างไรก็ตาม ขอเตือนว่าผู้ที่ซื้อใบกำกับภาษีปลอม เพื่อนำไปใช้หักลดหย่อนภาษีให้น้อยลง ให้หยุดดำเนินการ เพราะกรมสรรพากรจะเอาจริงเรื่องนี้และจะตรวจสอบเข้มข้น รวมทั้ง ยังเสนอแก้ไขกฎหมายให้กรมสรรพากรเข้าไปเป็นเจ้าพนักงานสอบสวนและสามารถระงับธุรกรรมการเงินในกรณีที่ขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นเท็จ กับการขายภาษีมูลค่าเพิ่มปลอม เพื่อที่จะได้ตามเงินภาษีคืนกลับมาได้อย่างทันท่วงที

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ลุยทวงภาษีโกงคืน 7,000 ล้านบาท

Posts related