วันนี้ (11 มิ.ย.) เวลา 13.30 น. ที่ศาลปกครอง แจ้งวัฒนะ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลปกครองสูงสุดมีคำวินิจฉัยในคดีการถ่ายทอดแข่งขันฟุตบอลโลกผ่านฟรีทีวีทั้ง 64 คู่ โดยบริษัท อาร์เอสอินเตอร์เนชั่นแนล บรอดคาสติ้ง แอนด์ สปอร์ต แมเนจเม้นท์ ผู้ได้รับลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายยื่นฟ้องสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) เนื่องจากไม่ต้องการปฏิบัติตามประกาศ กสทช. ในการถ่ายทอดการแข่งขันฟุตบอลผ่านฟรีทีวีครบทั้ง 64 นัดทั้งนี้ ศาลปกครองสูงสุดได้พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ให้อาร์เอสเป็นผู้ชนะคดีเนื่องจากได้รับลิขสิทธิ์ในการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 รอบสุดท้าย ที่จะจัดขึ้นระว่างวันที่ 12 มิ.ย.-13 ก.ค.57 จากสหพันธ์ฟุตบอลระหว่างประเทศ หรือฟีฟ่า มาก่อนประกาศ กสทช.เรื่อง หลักเกณฑ์รายการโทรทัศน์สำคัญที่ให้เผยแพร่ได้เฉพาะในบริการโทรทัศน์ที่เป็นการทั่วไปหรือ มัสต์แฮฟ จะมีผลบังคับใช้ และอาร์เอสได้มีการคัดค้านประกาศดังกล่าวมาโดยตลอด ดังนั้นศาลจึงเห็นว่าให้ประกาศมัสแฮฟ มีผลบังคับใช้ต่อไปเช่นเดิม ยกเว้นกรณีการถ่ายทอดการแข่งขันฟุตบอลโลก2014 เท่านั้นพ.อ.นทีศุกลรัตน์ รองประธาน กสทช. และประธานกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) กล่าวว่า น้อมรับคำตัดสินของศาลปกครองสูงสุดในคดีนี้ พร้อมขอยืนยันว่าได้ดำเนินการเพื่อคุ้มครองสิทธิของประชาชนในการรับบริการโทรทัศน์โดยเท่าเทียมกันอย่างเต็มความสามารถแล้วด้าน นายสุพรรณ เสือหาญ ทนายความจากบริษัทอาร์เอส กล่าวว่ าอาร์เอสพึงพอใจในคำตัดสินของศาลและจะดำเนินธุรกิจตามแผนเดิมส่วนรายละเอียดอื่นว่าจะเพิ่มช่องถ่ายอีกหรือไม่นั้น ต้องรอให้ผู้บริหารอาร์เอสเป็นผู้ให้รายละเอียดต่อไปทั้งนี้ ผลคดีดังกล่าวทำให้ประชาชนสามารถรับชมการถ่ายทอดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 ที่บราซิล ผ่านฟรีทีวีช่อง7 และช่อง 8 ของอาร์เอสที่กำหนดมาให้จำนวน 22 นัดจากทั้งหมด 64 นัด ส่วนการรับชมผ่านทรูวิชั่น พีเอสไอ และกล่องบอลโลกของอาร์เอส จะสามารถรับชมได้ครบทุกคู่

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ศาลปกครองสูงสุดตัดสินให้ “อาร์เอส” ชนะคดีบอลโลก 2014

Posts related