รายงานข่าวจากศูนย์วิจัยกสิกรไทยแจ้งว่า ตลาดท่องเที่ยวต่างชาติของไทยในปีนี้  มีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปีก่อน  โดยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาไทยประมาณ 26.6 ล้านคน ขยายตัว 0.2% และสร้างเม็ดเงินสู่ธุรกิจต่างๆ คิดเป็นมูลค่า 1.2 ล้านล้านบาท หรือขยายตัว 2.4% แม้ว่าในช่วงครึ่งปีแรก(ม.ค.-มิ.ย)ไทยจะต้องเผชิญกับการชุมนุมทางการเมือง ภัยธรรมชาติ และเหตุการระเบิดที่อำเภอหาดใหญ่  รวมถึงคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เข้าควบคุมอำนาจบริหารประเทศ ซึ่งส่งผลต่อความเชื่อมันด้านความปลอดภัยทำให้บางประเทศเตือนพลเมืองระมัดระวังการเดินทางมาไทย และทำให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวหดตัว 4.4%  โดยเฉพาะจีนลดลง 20% รองลงมาคือฮ่องกง ไต้หวัน มาเลเซีย ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ สำหรับสถานการณ์การท่องเที่ยวของไทยในช่วงครึ่งหลัง(ก.ค.-ธ.ค.)  มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น เพราะได้รับอานิสงส์จากการที่คสช.ยกเลิกประกาศเคอร์ฟิวทั่วราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา ส่งผลดีต่อภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวของไทย  ซึ่งเห็นว่าหากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องร่วมมือกันสื่อข้อมูลถึงสถานการณ์ที่เป็นจริงในประเทศไทย ควบคู่กับการจัดกิจกรรมส่งเสริมตลาดต่างประเทศที่มีศักยภาพมีแนวโน้มที่ตลาดนักท่องเที่ยวระยะใกล้ จะสามารถฟื้นตัวกลับมาเติบโตได้ในช่วงไตรมาส 3 ซึ่งเป็นช่วงโลว์ซีซั่น โดยเฉพาะตลาดนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคเอเชียตะวันออก ซึ่งโดยปกติจะมีนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จำนวนไม่น้อยนิยมเดินทางมาเที่ยวประเทศไทยในช่วงโลว์ซีซั่น เนื่องจากสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่าการเดินทางมาไทยในช่วงปลายปี ทั้งนี้ อาจจะส่งผลให้ตลาดนักท่องเที่ยวชาวจีนมีแนวโน้มฟื้นตัว และส่งผลให้โดยรวมมีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางมาไทยไม่ต่ำกว่า 4 ล้านคน ลดลง 13.7% “หากไม่มีเหตุการณ์ใดมากระทบการท่องเที่ยวของไทยแล้ว คาดว่า ในช่วงไตรมาส 4 ซึ่งเป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว(ไฮซีซั่น) นักท่องเที่ยวระยะไกลโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวยุโรปยังคงเลือกเดินทางมาพักผ่อนในเมืองท่องเที่ยวชายทะเลยอดนิยมของไทย เช่น  ภูเก็ต กระบี่ พังงา สุราษฎร์ธานี เป็นต้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นปลายทางท่องเที่ยวที่มีความสะดวกสบายในการเดินทางด้วยเที่ยวบินประจำและเที่ยวบินเช่าเหมาลำ”

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ศูนย์วิจัยกสิกรไทยชี้ตลาดท่องเที่ยวไทยฟื้น

Posts related