ต่อยอด “ดินสอพองปลอดเชื้อจากการฉายรังสี” หลังแจกฟรีให้กับประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์ สทน. หรือ สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) เดินหน้าขยายผล มุ่งเป้ายกระดับสปาไทย ดร.สมพร จองคำ ผู้อำนวยการ สทน.  เปิดเผยถึงนโยบายการผลักดันให้เอกชนใส่ใจในมาตรฐานการผลิตเพื่อการจำหน่ายผลิต ภัณฑ์ดินสอพองที่มีคุณภาพว่า สทน. จะเดินหน้าขยายผลกระตุ้นให้ภาคเอกชน นำผลิต ภัณฑ์ดินสอพองมาผ่านระบบการฆ่าเชื้อ เพื่อสร้างมาตรฐานและชื่อเสียงที่ดีในการจำหน่ายสินค้าที่ได้ระดับมาตรฐานแก่ผู้บริโภค จากก่อนหน้านี้ที่ประสบความสำเร็จในการเปิดกองคาราวานรณรงค์เตือนภัยและแจกฟรี “ดินสอพองปลอดเชื้อ” ไปตามถนนสายสำคัญ ในเมืองหลวง ซึ่งปรากฏว่าประชาชนตอบรับที่จะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สะอาดและปลอดภัย เพื่อนำไปเล่นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ล่าสุดเตรียมจัดทำโครงการ “ดิน สอพองมาตรฐานสปาเกรด” เพื่อยกระดับผู้ให้บริการหรือเจ้าของกิจการ ซึ่งมีผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่องกับการนำดินสอพองมาใช้เป็นส่วนผสมในการให้บริการนวด หรือการขัดตัว  และอื่น ๆ ในงานบริการ  มาเลือกใช้บริการฉายรังสี  เพื่อทำให้ดินสอพองปลอดเชื้อก่อน 100% ก่อนนำไปใช้เป็นส่วนประกอบในสูตรการผลิตเป็นสินค้าที่ผนึกตราสัญลักษณ์ของธุรกิจเองต่อไป ซึ่งเป็นการเพิ่มมูลค่าความปลอดภัยที่แท้จริงให้กับผลิตภัณฑ์ในการทำตลาดและจะได้รับความรู้สึกไว้วางใจจากผู้บริโภคได้อย่างดียิ่งขึ้น   ทั้งนี้ สทน.ในการคิดค้นและวิจัยนำเทคโนโลยีนิว เคลียร์มาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างสร้างสรรค์  โดยการให้บริการฉายรังสีแกมมาเพื่อฆ่าเชื้อโรคในเวชภัณฑ์ทางการแพทย์และเครื่องสำอางนั้น จะใช้ในปริมาณรังสี 8.90-10.40 กิโลเกรย์ ซึ่งเป็นปริมาณรังสีที่ไม่สูงมาก เป็นระบบคลื่น แม่เหล็กไฟฟ้า ฉายประมาณ 1-3 ชั่วโมง พบว่ามีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดโรคได้เป็นอย่างดี   โดยสามารถทำลายเชื้อจุลินทรีย์ได้จนเกือบหมด จำนวนแบคทีเรีย ยีสต์และราจากระดับการปนเปื้อน 11,000-230,000 โคโลนีต่อกรัม เหลือเพียง 5-10 โคโลนีต่อกรัม และเชื้อคลอสตริเดียมซึ่งเดิมมีปริมาณ 2,200- 71,000 โคโลนีต่อกรัม ตรวจไม่พบเชื้อโรคเลยหลังจากฉายรังสี นอกจากนี้ดินสอพองที่ผ่านการฉายรังสียังไม่มีรังสีตกค้างและไม่เกิดการสะสมของรังสีขึ้นอีกด้วย ดร. สมพร  กล่าวต่ออีกว่า  อย่างไรก็ตาม สทน. ไม่ได้อยู่ในฐานะผู้จัดเกรดหรือระดับมาตรฐานการให้บริการสปา เป็นเพียงชี้ให้เห็นอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นจากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่คุณภาพต่ำ ซึ่งปนเปื้อนเชื้อโรค ดังนั้นการเลือกพิจารณามาใช้บริการฆ่าเชื้อโรค เป็นการตัดสินใจของธุรกิจหรือเจ้าของสปาโดยตรง     ซึ่งราคาค่าฉายรังสีสินค้า จะเป็นไปตามความแรงของรังสีที่ใช้ หากผู้ประกอบการนำสินค้ามาฉายรังสี ทางศูนย์ฉายรังสีจะตรวจสอบปริมาณเชื้อโรคที่ปนเปื้อน และจะคำนวณปริมาณรังสีที่ใช้ เพื่อสามารถฆ่าเชื้อโรคให้ได้ระดับสเตอริไรซ์ คือ ปลอดเชื้อโรคมากกว่า 99% ด้าน นางสาวภัททิราพร เขียวสนั่น อุปนายกสมาคมสปาไทย กล่าวว่า สมาคมสปาไทย สนับสนุนและตระหนักถึงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปลอดเชื้อในธุรกิจสปา โดยเฉพาะหากต้องการให้อุตสาหกรรมสปาไทยก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 และเติบโตสู่เวทีโลก ซึ่งแต่ละปีตลาดสปาจะมีมูลค่าประมาณ 16,000-18,000 ล้านบาทต่อปี หากมีการใช้วัตถุดิบปนเปื้อน จะเกิดความเสี่ยงกับผู้ที่รับบริการ เนื่องจากดินสอพองถูกนำมาใช้ในธุรกิจสปา โดยเป็นวัตถุดิบพื้นฐานในการมาส์กตัว และมาส์กหน้า ซึ่งผู้ประกอบการแต่ละรายจะคิดสูตร ครีมหมักพอกตัว และหน้าเป็นของตัวเองโดยนำดินสอพองผสมกับสมุนไพรต่าง ๆ ดังนั้น การที่ดินสอพองที่ปลอดเชื้อเข้าไปอยู่ในส่วนผสมของผลิตภัณฑ์จะมีผลต่อความปลอดภัยของผู้รับบริการสปามากขึ้นอีกด้วย.

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : สทน.หนุนสปาพรีเมี่ยมใช้บริการ ฉายรังสีฆ่าเชื้อดินสอพอง

Posts related