นายนพพร เทพสิทธา ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สภาผู้ส่งออกได้ปรับลดประมาณส่งออกไทยในปี 57 จากเดิมที่ตั้งไว้ 5% เหลือ 3% เนื่องจากมีปัจจัยลบหลายประการ เช่น ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองไทย, ความล่าช้าของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ที่ประเมินว่าจะขยายตัว3.6%, มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐยังไม่ชัดเจน และตลาดส่งออกสำคัญของส่งออกไทย ยังอยู่ในภาวะน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะจีน อาจนำเข้าสินค้าหันพึ่งพาการบริโภคในประเทศมากขึ้น“ในไตรมาสแรกส่งออกไทยติดลบ 1% หากจะได้ 3% ในปี 57 ในไตรมาสที่ 2 การส่งออกต้องขยายตัว 3% ในไตรมาสที่ 3 ขยายตัว 5% และไตรมาสที่ 4 ขยายตัว 5% หรืออีก 9 เดือนจากนั้นการส่งออกไทยจะต้องเฉลี่ยที่ 21,500 ล้านเหรียญฯ”ขณะเดียวกัน ต้องการให้ภาครัฐเร่งหารือกับผู้ส่งออกของประเทศจีนในการร่วมมือกันหรือการเป็นพันธมิตรในการขยายสินค้าในกลุ่มประเทศอาเซียน เนื่องจากผู้ส่งออกไทยเริ่มกังวลว่ากับการขยายตัวของสินค้าจากประเทศจีนที่เข้าแย่งตลาดสินค้าไทยในอาเซียนเพิ่มขึ้นต่างจากไทยที่มียอดส่งออกไปประเทศอาเซียนลดลง เห็นได้จากในเดือน มี.ค. 57 มีมูลค่าเพียง 4,820 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 10.9% โดยสินค้าที่ลดลงมากๆ เช่น น้ำมันสำเร็จรูป, เครื่องคอมพิวเตอร์อุปกรณ์และส่วนประกอบ, เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ, เหล็ก เหล็กกล้า ผลิตภัณฑ์ และ เคมีภัณฑ์ เป็นต้นทั้งนี้ สาเหตุที่จีนสามารถขยายตลาดอาเซียนได้อย่างรวดเร็วเพราะผู้ประกอบการจีนมีการทำการค้าแบบครบวงจรทั้งมาตั้งบริษัทผู้นำเข้าสินค้าในประเทศอาเซียน มีธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องรอบรับเป็นระบบ ซึ่งจะได้ผลกว่าการส่งออกอย่างเดียวเหมือนกับไทย

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : สภาผู้ส่งออกฯปรับลดการส่งออกเหลือ 3%

Posts related