นายสมชายพูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ขณะนี้ ยอดผู้จองสิทธิ์รถยนต์คันแรกที่ยังค้างอีก120,000 ราย จากจำนวนผู้ได้รับสิทธิ์ 1.247 ล้านราย หรือคิดเป็นเงิน 91,361 ล้านบาท เชื่อว่าประมาณ100,000 ราย ได้ทิ้งใบจองแล้ว เนื่องจากที่ผ่านมาค่ายรถยนต์ขนาดใหญ่ได้ทำการปิดบัญชีรวมทั้ง ผู้จองสิทธิ์บางรายเปลี่ยนใจไปซื้อรถใหม่ที่มีโปรโมชั่นที่น่าสนใจกว่าหรือบางรายเป็นการจองไว้หลายยี่ห้อและรับรถไปแล้ว แต่ไม่ได้ยกเลิกอีกยี่ห้อหนึ่ง “ที่ผ่านมากรมสรรพสามิตได้หารือกับผู้ประกอบการและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ (ดีเลอร์) ที่ไม่ได้กำหนดเวลารับรถไว้ในเอกสาร จึงให้ทำจดหมายไปสอบถามผู้จองว่ายังยืนยันจะรับรถหรือไม่หากผู้จองไม่มารับรถยนต์ตามกำหนดให้ถือว่าสละสิทธิ์ รวมถึง กรมฯก็ได้ส่งข้อความไปถึงผู้ขอใช้สิทธิ์เช่นเดียวกัน แม้ปัจจุบันจะมีตัวเลขรับรถยนต์ยังเคลื่อนไหวอยู่เดือนละ4,000-5,000 ราย แต่เชื่อว่าประมาณ100,000 ราย ได้ตัดสินใจทิ้งใบจองแล้ว ซึ่งคาดว่าในสิ้นเดือนม.ค.ปีนี้ น่าจะได้ข้อสรุปของโครงการทั้งหมด” อย่างไรก็ตามมองว่าผู้จองสิทธิ์รถยนต์คันแรกประมาณ 100,000 รายนั้น ถือเป็นไปตามการคาดการณ์ที่จะมีผู้จองสิทธิ์ยกเลิกใช้สิทธิ์ในโครงการดังกล่าวอยู่ที่ 10% ซึ่งจะช่วยลดรายจ่ายในโครงการดังกล่าวกว่า 10,000 ล้านบาท โดยปีงบประมาณ 58 กรมสรรพสามิตคาดว่าจะต้องตั้งงบประมาณจ่ายคืนอีก10,000 ล้านบาท จากก่อนหน้านี้ที่ตั้งงบประมาณปี 55-56อยู่ที่ 30,000 และงบประมาณปี 57 อยู่ที่ 40,000 ล้านบาท รวม 2 ปีที่ตั้งไปแล้วกว่า 70,000 ล้านบาท โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 8 ม.ค.57 มีผู้ได้รับเงินคืนจากโครงการไปแล้ว700,000 ราย คิดเป็นเงิน 50,000ล้านบาท ทั้งนี้กรณีผู้รับรถไปและยังไม่ครบ 1 ปี ยังไม่ได้รับเงินคืนไม่เกิน 100,000 แสนบาทจากกรมสรรพสามิต หากผิดเงื่อนไข หรือรถถูกยึด จะไม่ส่งผลกระทบกับกรมสรรพสามิตแต่หากเป็นกรณีที่ถือครองรถยนต์ครบ 1 ปีและได้รับเงินคืนจากกรมสรรพสามิตไปแล้ว ผู้ซื้อจึงจะต้องนำเงินมาคืนกรมสรรพสามิต โดยขณะนี้มีผู้ที่ได้รับเงินจากกรมสรรพสามิตไปแล้ว แต่ทำผิดเงื่อนไข ซึ่งมีทั้งหมด 500-600ราย ซึ่งได้นำเงินส่งเงินคืนให้กรมฯแล้ว ส่วนการกรณีฟ้องร้อง อยู่ที่4-5 ราย ซึ่งได้ให้กรมบัญชีกลางดำเนินการแล้ว

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : สรรพสามิตรับยอดทิ้งจองรถคันแรก 1 แสนราย

Posts related