นายไพบูลย์นลินทรางกูร ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยภายหลังเข้าพบกับผู้บริหารระดับสูงของกรมสรรพากรว่า กรมฯ มีมติให้คงนโยบายลดหย่อนภาษี ให้กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (แอลทีเอฟ) ไปจนถึงปี 59 ตามสัญญา ส่วนสิทธิประโยชน์ทางภาษีของกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (อาร์เอ็มเอฟ) นั้นให้คงสิทธิตามเดิม เนื่องจากไม่มีวันหมดอายุ ซึ่งขณะนี้สภาฯได้พยายามนำเสนอข้อมูลให้สรรพากรพิจารณาคงนโยบายลดหย่อนภาษีให้กองทุนอาร์เอ็มเอฟอย่างต่อเนื่อง ในระหว่างก่อนหมดสัญญา เพื่อพัฒนาธุรกิจตลาดทุนในอนาคต และโอกาสการเข้าถึงการลงทุนของประชาชนเพิ่มมากขึ้น“นโยบายการลดหย่อนภาษีนั้น เชื่อว่าจะช่วยดึงดูดใจให้ประชาชนทั่วไป ใส่ใจการลงทุนมากขึ้น โดยกองทุนดังกล่าว ส่งผลประโยชน์ต่อบุคคลรายได้ปานกลาง ถึงรายได้น้อยค่อนข้างมาก ซึ่งวัตถุประสงค์หลัก คือการเชิญชวนเพื่อให้คนเข้ามาในตลาดทุนเพิ่มมากขึ้น โดยปัจจุบันยังมีผู้เข้าระดมทุนในกองทุนแอลทีเอฟเพียง 700,000 บัญชี วงเงินรวม 220,000 ล้านบาท และในการหารือร่วมกันครั้งหน้า อาจจะยื่นข้อเสนอการข้อจำกัด ด้านจำนวนบัญชี หรือวงเงินที่เหมาะสม เพื่อยกเลิกการลดหย่อนภาษีในอนาคต”นอกจากนี้สภาฯได้ขอเข้าพบคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อเชิญตัวแทนฝ่ายพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ร่วมเดินทางไปสร้างความเชื่อมั่นในต่างประเทศอาทิ ฮ่องกง และสิงคโปร์ โดยจะมีทั้งตัวแทนภาครัฐได้แก่ กระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ตัวแทนภาคเอกชน ได้แก่ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นการเรียนเชิญอย่างเป็นทางการ เพื่อช่วยสร้างความเชื่อมั่นเรื่องสถานการณ์ภายในประเทศ อย่างครบทุกภาคส่วนส่วนแผนการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐนั้น สภาฯจะเข้าไปเสนอแนวทางการระดมทุนผ่านกองทุนโครงสร้างพื้นฐานมากขึ้น เพราะเห็นว่าเป็นช่องทางที่เหมาะสม สำหรับการหาเงิน เพื่อใช้ในการลงทุนจำนวนมา กถึงแม้ว่าการกู้เงิน จะมีต้นทุนที่ถูกกว่า เพราะกระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกัน แต่หากรัฐวิสาหกิจทุกแห่ง ใช้การกู้เงินช่องทางเดียว จะทำให้หนี้สาธารณะในประเทศเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นจึงอยากให้ค สช. วางนโยบายให้รัฐวิสาหกิจระดมทุนผ่านกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน ร่วมกับการกู้เงินไปด้วย ซึ่งขณะนี้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้เริ่มให้ความสนใจในวิธีการดังกล่าวแล้วพอสมควรนอกจากนี้ จะเสนอให้จัดตั้งคณะกรรมการพัฒนาตลาดทุนชุดใหม่ เพื่อดูแลเรื่องข้อกฏหมาย และภาษีที่เกี่ยวกับตลาดทุนโดยเฉพาะ รวมถึงการแปรรูปรัฐวิสาหกิจให้เป็นธรรม เป็นระบบมากขึ้น เพื่อความแข็งแกร่งของภาคตลาดทุนไทยในอนาคต

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : สรรพากรต่ออายุแอลทีเอฟถึงปี 59

Posts related