นายสุทธิชัย สังขมณี อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า ขณะนี้ กรมสรรพากรเตรียมเข้มงวดและตรวจสอบการภาษีให้มากขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจที่ได้รับอานิสงค์จากการชุมนุมที่มีทั้งธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการอุปโภค บริโภค ธุรกิจด้านอาหาร ที่ต้องตรวจสอบว่าธุรกิจดังกล่าวเสียภาษีที่สอดคล้องกับแนวโน้มธุรกิจหรือไม่ เพราเมื่อเปรียบเทียบแล้วธุรกิจดังกล่าวยอดขายไม่ลดลง อย่างธุรกิจอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบจากชุมนุมและปัญหาเศรษฐกิจ ดังนั้นการเสียภาษีไม่ควรปรับลดลงจากช่วงที่ผ่านๆมา โดยสินค้าที่ขายดีในช่วงชุมนุมที่เห็นได้ชัดคือ น้ำดื่ม บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป  ต้องไปดูว่าบริษัทที่อยู่ในกลุ่มนี้จ่ายภาษีลดลงสวนทางกับยอดขายที่เพิ่มขึ้นหรือไม่ ทั้งนี้ ในฐานะผู้เก็บภาษีต้องตรวจสอบอยู่แล้ว ทั้งภาษีของกลุ่มธุรกิจ และบุคคลธรรมดาที่บริจาคเงินให้กับกลุ่มผู้ชุมนุม โดยการตรวจสอบจะต้องดูหลายด้าน ทั้งกระแสบัญชี(สเตทเม้นท์) ข้อมูลงบดุลของบริษัท และต้องดูเส้นทางของรายได้และเส้นทางการเงิน ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร ซึ่งขั้นตอนการตรวจสอบต้องพิจารณาให้รอบคอบ เพราะถ้าไม่รอบคอบจะเป็นการไปกล่าวหา โดยบางรายใช้เวลาเป็นปีจึงจะทราบว่ามีการเสียภาษีอย่างถูกต้องหรือไม่ อย่างไรก็ตาม กรมสรรพากรมีกลุ่มบุคคลและกลุ่มบริษัท ที่กรมสรรพากรกำลังตรวจสอและจับตาดูเป็นพิเศษนั้นมีอยู่ระดับ 100 ราย ซึ่งการตรวจสอบช่วงนี้เป็นเพียงแค่การเริ่มต้นจึงยังบอกไม่ได้ว่าบริษัทที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบนั้นหลีกเลี่ยงภาษีหรือไม่ 

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : สรรพากรหน้ามืดรีดภาษี

Posts related