นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือจีดีพี ไตรมาสแรกปี 57 และแนวโน้มทั้งปี ว่า จีดีพีไทยในไตรมาสแรกได้ติดลบ 0.6% มีสาเหตุจากการลดลงของอุปสงค์ภาคเอกชนภายในประเทศ ทั้งรายจ่ายภาคครัวเรือน ลดลง 3% เป็นผลมาจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลง เพราะระมัดระวังเรื่องของการใช้จ่าย เนื่องจากยังกังวลกับสถานการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้น ส่วนการลงทุนรวม ก็ลดลงถึง 9.8% ขณะที่แนวโน้มทั้งปี 57 คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัว 1.5 – 2.5% ต่ำกว่าประมาณการเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 3-4%โดยมีเหตุผลหลัก 3 เรื่อง คือ ปัญหาทางการเมืองที่ยืดเยื้อกว่าที่คาดไว้เดิม เป็นข้อจำกัดต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจมากกว่าที่คาดไว้เดิม ซึ่งจะส่งผลให้ การจัดตั้งรัฐบาลมีแนวโน้มล่าช้าออกไปจากที่คาดการณ์ไว้เดิมและเป็นข้อจำกัดมากขึ้นต่อการดำเนินมาตรการ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ การเบิกจ่ายงบประมาณ และการจัดเตรียมงบประมาณประจำปี 58 ขณะเดียวกันก็ส่ง ผลกระทบต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภคและภาคธุรกิจ ทำให้ระมัดระวังในการใช้จ่ายและการลงทุน ประกอบกับ มีผลกระทบมาจากการที่ฐานรายได้และเศรษฐกิจโดยภาพรวมชะลอตัวมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โลกที่ยังคงกระจุกตัวอยู่ในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว แต่เศรษฐกิจเอเชียมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่ประมาณการไว้ จึงส่งผลให้ปริมาณการส่งออกของไทยฟื้นตัวช้าและราคาส่งออกลดลง และสุดท้ายจำนวนนักท่องเที่ยวในไตรมาสแรก ของปี 57 ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้เดิม เนื่องจากภาคการท่องเที่ยวยังคงมีความอ่อนไหวต่อสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้นักท่องเที่ยวในปี 57 มีจำนวน 27 ล้านคน ลดลงจากสมมติฐาน 27.5 ล้านคน ในการประมาณการครั้งก่อน

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : สศช.หั่นคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 57 เหลือ 1.5-2.5%

Posts related