นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงกรณีแกนนำผู้ชุมนุมต่อต้านพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ประกาศ 4 มาตรการอารยะขัดขืน เพื่อยกระดับการชุมนุมต่อต้านการออกพ.ร.บ.นิรโทษกรรมว่า ได้หารืออย่างไม่เป็นทางการกับสมาชิกส.อ.ท. มีความเห็นตรงกันว่า กรณีการนัดหยุดงานระหว่างวันที่ 13 – 15 พ.ย. เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม แม้เป็นเรื่องสิทธิของแต่ละบุคคล เพราะจะกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ คุณภาพชีวิต และที่สำคัญจะส่งผลกระทบความเชื่อมั่นของประเทศไทยต่อสายตาชาวโลกได้ สำหรับกรณีให้เอกชน ชะลอการชำระภาษี กรณีนี้ไม่เห็นด้วยเช่นกัน เนื่องจากเส.อ.ท. ป็นองค์กรที่มีหน้าที่ส่งเสริมการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชั่น เพราะฉะนั้นการชำระภาษีเป็นหน้าที่ของพลเมืองดี ทุกคนจึงต้องเสียภาษี หากไม่เสียภาษี จะเป็นการคอรัปชั่นประเภทหนึ่ง และขณะนี้ภาคเอกชนมองว่า ปัญหาการชุมนุม ฯ น่าจะจบลงได้แล้ว เพราะการต่อต้านพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ขั้นตอนในรัฐสภา ได้ยับยั้ง เหลือเพียงส่งคืนให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาเท่านั้น จึงอยากเห็นความสงบ และหันหน้ามาช่วยกันพัฒนาประเทศต่อไป ส่วนผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจนั้น ขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินได้อย่างชัดเจน เพราะเหตุการณ์ยังเกิดในระยะสั้น แต่ถ้ายังยืดเยื้อต่อไป จะส่งผลกระทบในระยะยาวแน่นอน โดยเฉพาะเรื่องความเชื่อมั่นในการลงทุน ซึ่ง 1 – 2 เดือนที่ผ่านมาส.อ.ท. ได้ประเมินการขยายตัวทางเศรษฐกิจ คาดว่า ขยายตัวใกล้ ๆ 4 % แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์การชุมนุมยังยืดเยื้อต่อไป คาดว่า เศรษฐกิจจะขยายตัวประมาณใกล้ ๆ 3.5 % ขณะที่ปีหน้า ยังประเมินการขยายตัวไว้ที่ 5 % หากการชุมนุมยังไม่ยุติ จะประเมินผลกระทบอีกครั้งหนึ่ง

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ส.อ.ท.ค้านนัดหยุดงาน-ไม่จ่ายภาษี

Posts related