นายธีรนันท์ ศรีหงส์กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้คาดว่าจะเติบโต3.6-3.7 %  เนื่องจากยังคงมีปัจจัยเสี่ยงจากปัญหาทางด้านการเมืองกดดันเศรษฐกิจ และถ้าการเมืองยืดเยื้อเกินไตรมาส2/57คาดว่าเศรษฐกิจจะเติบโต 2-2.5 % ขณะที่การส่งออกเติบโต 5-7 %  ยกเว้นกรณีเลวร้ายสุดการส่งออกไม่ได้รับอานิสงส์จากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวจีดีพีจะโตเพียง 0.5 %   สำหรับสถานการณ์ค่าเงินบาทยังผันผวน  แต่ไม่สามารถประเมินได้ว่าจะอยู่ที่ระดับไหน เนื่องจากต้องติดตามสหรัฐอเมริกาเกี่ยวกับการปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณหรือคิวอีว่าจะเป็นเมื่อใด และปัญหาการเมืองในประเทศ ที่ทำให้เงินทุนไหลออกอย่างไรก็ตาม หวังว่าเหตุการณ์การเมืองจะไม่รุนแรง และอยู่ในพื้นที่จำกัดเฉพาะกรุงเทพฯ ซึ่งเชื่อว่าภาคการท่องเที่ยวมีโอกาสขยายตัวและช่วยพยุงเศรษฐกิจไทยได้  ด้านแผนธุรกิจของธนาคารในปีนี้ ตั้งเป้าหมายการเติบโตสินเชื่อไว้ที่ 9 %  ตามจีดีพีและควบคุมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล) ไม่ให้เกิน 2.2 % ของสินเชื่อรวมส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมเติบโตเพิ่มขึ้น 10 %   ส่วนการชุมนุมของทางกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขหรือกปปส.ที่ประกาศปิดกรุงเทพ ในวันที่ 13 ม.ค.นี้  ธนาคารพร้อมรองรับกับสถานการณ์การชุมนุมมีแผนรองรับกับสถานการณ์ฉุกเฉิน และได้มีการทดสอบในหลายสถานการณ์ที่เคยผ่านมาแล้วเช่น วิกฤตการเมือง ปี 53 และเหตุการณ์น้ำท่วมในปี  54 การให้บริการทางการเงินไม่ติดขัด ทั้งนี้ธนาคารมีสาขาและเอทีเอ็มมากพอที่จะรองรับจำนวนผู้ใช้บริการในแต่ละพื้นที่หากในบางพื้นที่ที่มีความเสี่ยงจากการชุมนุม  ธนาคารได้เพิ่มการสำรองเงินสดทั้งในสาขาและเอทีเอ็มและถ้าการชุมนุมยืดเยื้อคาดว่าจะไม่มีผลกระทบต่อการให้บริการทางการเงินเพราะสำรองเงินสดที่มีอยู่สามารถใช้ได้ไม่ต่ำกว่า 7 วันทำการ   “ธนาคารยังคงติดตามความเคลื่อนไหวและติดตามผลกระทบจากทางการเมืองอย่างต่อเนื่องเนื่องจากยังไม่มีความชัดเจนว่าจะมีผลกระทบลุกลามไปถึงภาคส่วนใดบ้างซึ่งในภาพรวมยังเห็นว่าธุรกิจในต่างจังหวัดยังมีการเติบโตของสาขาต่างๆได้ดีมีอัตราการเติบโต 2 เท่าตัว  ดังนั้นธนาคารได้เน้นการปล่อยสินเชื่อในภูมิภาคมากกว่าในเขตกรุงเทพ”      

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : หวั่นการเมืองฉุดจีดีพีโตจิ๊บจ๊อย0.5%

Posts related