นายอมรเทพ จาวะลา หัวหน้าส่วนวิจัยเศรษฐกิจและตลาดการเงิน สำนักวิจัย ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย  เปิดเผยว่า ได้ปรับลดประมาณการณ์เศรษฐกิจไทยปีนี้เติบโตเพียง 2.4% จากเดิมที่คาดว่าโต 3.4%  เนื่องจากไทยเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในช่วงครึ่งแรกของปีนี้(ม.ค.-มิ.ย.)เพราะการลงทุน การบริโภคชะลอตัวมาตั้งแต่ไตรมาส4/56 หลังจากเกิดเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง ประกอบกับรัฐบาลยังไม่สามารถจัดตั้งได้ทำให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นขณะที่ตัวเลขส่งออกไม่ได้ปรับเพิ่มขึ้นมากนัก แม้ว่าเศรษฐกิจโลก เช่น สหรัฐอเมริกา ยุโรป และญี่ปุ่นจะฟื้นตัว  เนื่องจากในช่วงมีปัญหาเศรษฐกิจในประเทศดังกล่าวไทยได้เข้าไปทำตลาดในกลุ่มประเทศในเอเชียแทน ดังนั้นการกลับเข้าไปทำตลาดอีกครั้งต้องใช้เวลา นอกจากนี้สินค้าไทยมีมูลค่าเพิ่มต่ำเทคโนโลยีล้าสมัยจึงต้องปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีการผลิตให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลก “มีความเป็นห่วงกรณีเลวร้ายการเมืองยืดเยื้อจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ในไตรมาส 3/57 อาจทำให้จีดีพีทั้งปีติดลบ 1% ซึ่งถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดวิกฤติต้มยำกุ้ง  เพราะเริ่มเห็นสัญญานเศรษฐกิจถดถอย  โดยไตรมาส1/57คาดว่าจีดีพีติดลบ 1.6% และไตรมาส2/57 อยู่ที่ 0.3%ยกเว้นจัดตั้งรัฐบาลเสร็จในไตรมา3/57 จีดีพีโตตามเป้าที่วางไว้ 2.4% เพราะหวังว่านโยบายรัฐจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปี”  สำหรับกรณีที่มีความกังวลว่า ประเทศไทยจะถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือหรือไม่จากปัญหาการเมืองในประเทศนั้น  ไทยมีความเสี่ยงที่จะถูกปรับลดมุมมอง จากเสถียรภาพเป็นเชิงลบ เป็นผลมาจากหนี้สาธารณะที่สูงขึ้น โดยเฉพาะการรับจำนำข้าวหากแก้ปัญหาไม่ได้ และเศรษฐกิจในประเทศชะลอตัว และถ้าการเมืองยืดเยื้อต่อไปภายใน 6-12 เดือนข้างหน้าจะส่งผลต่อเศรษฐกิจและกระทบความเชื่อมั่นอย่างต่อเนื่อง มีความเสี่ยงอย่างมากที่ไทยจะถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ  ส่วนทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 12 มี.ค.นี้ เชื่อว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25 % เหลือ 2.00 % หลังจากการใช้จ่ายในประเทศหดตัว สภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์มีแนวโน้มผ่อนคลาย อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ และในช่วงครึ่งปีหลังเชื่อว่ากนง.จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังเศรษฐกิจไทยดีขึ้น เพื่อป้องกันเงินทุนไหลออก  นอกจากนี้ต้องจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟดในวันที่ 19 มี.ค.นี้ว่าจะทยอยถอนมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือคิวอีลงอีกหรือไม่ ซึ่งหากลดมาตรการคิวอีลงอีกจะทำให้ค่าเงินบาทของไทยปลายไตรมาส1/57  จะแตะที่ระดับ  33.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ และปลายปีอยู่ที่ 34 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : หวั่นการเมืองยืดเยื้อฉุดจีดีพีติดลบ1%

Posts related