นายปิยะสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานกลุ่มปฏิรูปพลังงานเพื่อความยั่งยืน เปิดเผยในงานเสวนาเรื่องปฏิรูปพลังงานเพื่อความยั่งยืนของใคร? จัดโดยธนาคารซีไอเอ็มบีไทยว่า สถานการณ์ความรุนแรงในประเทศอิรัก จะส่งผลให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แม้ว่า 10 วันที่ผ่านมาราคาอาจจะทรงตัว แต่หลังจากนี้หากสถานการณ์ความรุนนแรงยังบานปลาย กลายเป็นสงครามกลางเมือง จะกระทบกับราคาน้ำมันโลกแน่นอน เพราะอิรักเป็นผู้ส่งออกน้ำมันดิบ 3 ล้านบาร์เรลต่อวัน“ช่วง 2 ปีที่ผ่านมาคนไทยลืมไปว่า การเมืองในตะวันออกกลางมีความเสี่ยงสูง จึงไม่ได้วิตกกังวลเรื่องของราคาพลังงาน แต่จากนี้ไปในอนาคตหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับพลังงานจะต้องระวังให้มากเช่น เมื่อปี 47 ที่ตรึงราคาน้ำมันเพราะคิดว่า ราคาตลาดโลกผันผวนระยะสั้น ๆ ทำให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงต้องกู้เงินถึง 90,000 ล้านบาทมาใช้หนี้ จากการตรึงราคา และใช้หนี้แล้วเสร็จในปี 50 จึงไม่ต้องการให้รัฐบาลไม่ว่าชุดใด ใช้มาตรการตรึงราคาพลังงานอีก เพราะไม่ว่าการตรึงราคา หรือลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลขณะนี้ ทำให้รายได้รัฐหายไปปีละ 100,000 ล้านบาท ควรนำมาลงทุนสร้างระบบขนส่งมวลชน จะเป็นเรื่องที่ถูกต้องมากกว่า”ส่วนกรณีที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ให้ผู้ค้าน้ำมันตรึงราคาขายปลีก เพื่อรอผลสรุปการปฏิรูปโครงสร้างพลังงานแล้วเสร็จจะมีความเห็นอย่างไรนั้น เห็นว่าการปรับปรุงโครงสร้างราคาพลังงานเป็นเรื่องจำเป็น แต่ขอให้อย่าทำประชานิยมอีกเล ยเพราะเป็นการเก็บเงิน และใช้เงินของคนใช้เบนซินไปอุดหนุนคนใช้ก๊าซหุงต้ มและน้ำมันดีเซล ซึ่งการลดราคาน้ำมันลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันลดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเป็นเรื่องที่ทำได้ง่าย แต่ในระยะยาว ไม่ควรดำเนินการ เพราะถึงทำในวันนี้ประชาชนก็ดีใจ ได้เสียงเชียร์ แต่ในอนาคตจะเกิดปัญหามากมายตามมานายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท.สผ.กล่าวว่า ศักยภาพการผลิตปิโตรเลียมในไทยล่าสุด พบว่า ปริมาณที่ขุดหาได้ในไทย ที่พร้อมนำขึ้นมาใช้งานจะอยู่ได้อีก 7 ปี แต่ขณะนี้เตรียมตัวหาแหล่งใหม่ ๆ ที่ยังเหลืออยู่ เพื่อเตรียมนำขึ้นมาใช้ คาดว่า แหล่งที่ทยอยอพบในไทย อาจใช้งานได้อีกประมาณ 15 ปี ซึ่ง ปตท.สผ.ต้องไปแสวงหาปิโตรเลียมใหม่ ๆ ในต่างประเทศ โดยจะเป็นการผลิตเพื่อนำเข้ามาใช้งานในไทยและขายส่งออกไปสู่ตลาดโลกนายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ปตท กล่าวว่า สถานการณ์ความขัดแย้งในอิรักเริ่มยึดเยื้อมากขึ้น และมีลักษณะคล้ายกับสงครามตัวแทน ทำให้กังวลว่าหากความรุนแรงขยายตัวมากขึ้น จะยิ่งสร้างแรงกดดันต่อประเทศอื่น เพราะแม้ว่าอิรักจะส่งน้ำมันดิบในระดับปานกลาง แต่ความไม่สงบเกิดขึ้นในเขตทะเลแดง ซึ่งที่ใกล้ซาอุดิอาราเบี ยและอิหร่าน เป็นประเทศที่ส่งออกน้ำมันในกลุ่มโอเปก จึงกังวลว่า ผลกระทบจะขยายวงกว้างมากขึ้นและยังต้องติดตามสถานการณ์ในยูเครน และรัสเซีย หลังปัญหาที่ปิดท่อส่งแก๊สจากยูเครน แม้จะอยู่ในช่วงฤดูร้อน ทำให้ความจำเป็นจะมีไม่มาก แต่หากสถการณ์ยืดเยื้อออกจนไปถึงฤดูหนาว จะทำให้ความวิตกกังวลเพิ่มขึ้น

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : หวั่นสงครามอิรักดันราคาน้ำมันพุง

Posts related