ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยได้มีการจัดการประชุมใหญ่หอการค้า 5 ภาคเพื่อทบทวนยุทธศาสตร์ในการพัฒนาเศรษฐกิจให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบันพร้อมทั้งมีการสำรวจความคิดเห็นจากหอการค้าจังหวัดทั่วประเทศถึงทิศทางเศรษฐกิจในครึ่งหลังของปี 57 และเศรษฐกิจหลังจากที่มีคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ามาบริหารประเทศแทนรัฐบาลรักษาการของพรรคเพื่อไทยเจ้าหนี้จ้องตาเป็นมัน ว่าที่ร้อยเอกจิตร์ ศิรธรานนท์ ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคกลางหอการค้าไทย ระบุว่า ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 57ภาวะเศรษฐกิจไทยซบเซาลงมาก เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองรวมถึงชาวนายังไม่ได้รับเงินจากโครงการรับจำนำข้าวอีก 92,000 ล้านบาทดังนั้นในครึ่งหลังของปีเชื่อว่าเศรษฐกิจในภาพรวมจะดีขึ้นเพราะความขัดแย้งทางการเมืองที่ได้ยุติลงและชาวนาได้เงินเร็วขึ้น ทั้งนี้ในส่วนของเม็ดเงินจากโครงการรับจำนำข้าวจะเป็นตัวกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับรากหญ้าเป็นอย่างดีและเงิน 92,000 ล้านบาท ก็จะมีการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจอย่างต่ำ 4-5 รอบหรือ 400,000–500,000 ล้านบาท สำหรับเงินที่ชาวนาส่วนใหญ่ก็จะนำไปเป็นค่าใช้จ่ายในการลงทุนหรือทำนาปี, การใช้หนี้นอกระบบ และใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะในต่างจังหวัดเมื่อเกษตรกรได้รับเงินมา ส่วนใหญ่ก็จะจ่ายทันทีเกือบ 100% ต่างจากคนเมืองหลวงที่จะเก็บเป็นส่วนมาก “เดิมทีเจ้าหนี้นอกระบบต้องทวงหนี้ชาวนาอย่างเข้มงวด และต้องการเงินทั้งก้อนเพราะเกรงว่าจะไม่ได้เงินส่วนนั้นไปแต่เมื่อ คสช. สามารถจ่ายเงินชาวนาได้อย่างแน่นอนแล้ว เชื่อว่าเจ้าหนี้นอกระบบก็เปลี่ยนแผนโดยการเก็บหนี้ตามงวดปกติหรือบางรายให้ยืดหนี้ด้วยเพราะต้องการกินดอกเบี้ยนาน ๆ ซึ่งนี่ก็คงแฮปปี้ทั้งชาวนาและเจ้าหนี้” จี้ช่วยเอสเอ็มอี นายวิโรจน์ จิรัฐิติกาลโชติ ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคเหนือหอการค้าไทย ระบุว่าใน 5 เดือนแรกธุรกิจเกือบทุกประเภทซบเซามาก เพราะได้รับผลกระทบจากการเมืองและแผ่นดินไหว ยกเว้นค้าชายแดนที่ยังเป็นตัวพยุงเศรษฐกิจแต่ในครึ่งหลังของปีน่าจะปรับตัวดีขึ้นตามสถานการณ์ทางการเมืองที่มีเสถียรภาพ และชาวนาได้รับเงินโดยข้อเสนอของหอการค้าภาคเหนือต้องการให้ คสช. เร่งก่อสร้างรถไฟรางคู่ เพราะจะมีประโยชน์ในแง่ของเศรษฐกิจอย่างมาก พร้อมทั้งหามาตรการในการช่วยเหลือธุรกิจเอสเอ็มอี ที่ประสบปัญหาขาดแคลนสภาพคล่อง หากไม่ช่วยก็จะทยอยปิดกิจการมากขึ้นโดยแนวทางต้องเร่งหาเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำให้แบงก์รัฐชะลอการชำระหนี้และเพิ่มการค้ำประกันสินค้าให้มากด้วยภาคใต้หาดีไม่ได้ นายวัฒนา ธนาศักดิ์เจริญ ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคใต้หอการค้าไทย มองว่า ใน 5 เดือนแรกเศรษฐกิจภาพรวมของภาคใต้หาดียากมาก ส่วนใหญ่ 88.9%ระบุว่าเศรษฐกิจภาคใต้แย่มากและ 11.1% บอกว่าอยู่ในระดับปานกลาง สาเหตุจากราคายางพาราและปาล์มซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจหลักราคาตกต่ำ รวมถึงโครงการต่าง ๆ ของรัฐบาลที่ผ่านมาลงมาสู่ภาคใต้น้อยมาก เช่น การก่อสร้างถนนจากจังหวัดระนอง-กระบี่-ตรัง-สตูล ที่ยังล่าช้าและในเส้นทางนี้ระยะทาง 500 กม.ยังเป็นถนน 2 เลน ทั้งนี้หอการค้าภาคใต้ต้องการเสนอให้เร่งสร้างถนน 4 เลน รวมถึงการสร้างรถไฟรางคู่เส้นทางโก-ลก-หาดใหญ่ เพื่อเชื่อมต่อการค้าขายกับประเทศมาเลเซีย ให้สะดวกและแก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตร อีสานก็ซบเซา นายสมศักดิ์ ขจรเฉลิมศักดิ์ รองประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระบุว่า เศรษฐกิจค่อนข้างซบเซามากในช่วง 5 เดือนแรกของปี เพราะกำลังซื้อได้หดหายจากระบบเศรษฐกิจมากจากปัญหาทางการเมือง, ชาวนาไม่ได้รับเงินค่าข้าว และผู้บริโภคบางกลุ่มต้องมีภาระในการผ่อนรถยนต์ในโครงการรถยนต์คันแรกจึงมีการระมัดระวังในการใช้จ่ายกันมากขึ้น ส่วนในครึ่งหลังของปีเมื่อสถานการณ์ทางการเมืองมีความชัดเจน เชื่อว่าจะทำให้เกิดการลงทุนมีการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณที่เร็วก็จะเป็นตัวกระตุ้นให้เศรษฐกิจภาพรวมของภาคตะวันออกเฉียงเหนือดีขึ้นตามไปด้วย ตะวันออกไม่กระทบ นายปรัชญา สมะลาภา ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออกหอการค้าไทย ระบุว่าเศรษฐกิจของภาคตะวันออกยังไม่ได้รับผลกระทบมากขึ้น ส่วนใหญ่ยังมองว่าสามารถเติบโตได้ในระดับปานกลาง ไม่ว่าจะเป็นท่องเที่ยว การบริโภค การค้าและ อุตสาหกรรมโดยเฉพาะการค้าชายแดนที่ค่อนข้างดีมาก เนื่องจากผลจากการรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ส่วนแนวโน้มครึ่งหลังปี 57เศรษฐกิจภาคตะวันออก มีสัญญาณปรับตัวดีขึ้นทั้งการลงทุน การส่งออก การเกษตร และการจ้างงาน อย่างไรก็ตามสิ่งที่ต้องเร่งช่วยเหลือคือธุรกิจเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากการเมืองและมีปัญหาสภาพคล่อง เมื่อประเมินของนักธุรกิจทั่วทุกภูมิภาคเห็นได้ว่าปัญหาทางการเมืองคือตัวถ่วงเศรษฐกิจอย่างแท้จริงเมื่อการเมืองนิ่งและมีรัฐบาลไม่ว่าจะมาจากระบบไหนก็ตามเห็นได้ว่าเศรษฐกิจไทยซึ่งมีความแข็งแกร่งอยู่แล้วสามารถขับเคลื่อนได้ต่อเนื่อง. มนัส แวววันจิตร

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : หอการค้าลุ้นเงินค่าข้าวชาวนา ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ 5 แสนล้าน

Posts related