นายธนิต โสรัตน์ เลขาธิการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และรองประธานคณะทำงานเศรษฐกิจมหภาค การเงิน การคลัง สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เปิดเผยว่า เป็นห่วงสถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองที่ยืดเยื้อขณะนี้ จะส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก (เอสเอ็มอี) เป็นอย่างมาก โดยคาดว่าในช่วง 6 เดือนจากนี้ กลุ่มเอสเอ็มอีจะทยอยปิดตัวอย่างต่อเนื่อง เพราะยอดขายลดลง ขณะที่ผู้ประกอบการบางส่วนที่กู้เงินจากสถาบันการเงิน ยังมีสัญญาณผิดนัดชำระหนี้จนทำให้เกิดหนี้ที่ไม่เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) เพิ่มขึ้นด้วย “สัญญาณเศรษฐกิจที่ถูกกระทบด้วยสถานการณ์ทางการเมือง ประกอบกับราคาสินค้าเกษตรที่ไม่ดี และชาวนายังไม่ได้รับเงินค่าจำนำข้าว สรุปได้ว่า ประเทศไทยตอนนี้ผู้มีรายได้น้อยกำลังยากลำบากมีความฝืดเคืองในการใช้จ่าย มีผลกระทบกับกำลังซื้อประชาชนลดลงจนไปกระทบต่อผู้ประกอบธุรกิจเอสเอ็มอี ถึงกว่า 90% ประสบปัญหายอดขายลดลง ขาดทุนและขาดสภาพคล่อง ทำให้บางส่วนต้องปิดตัว” ทั้งนี้ในแนวทางแก้ปัญหาดังกล่าว คงเป็นหน้าที่ของหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องต้องเข้าไปดูแล และหามาตรการระยะสั้นช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน โดยไม่ต้องรอนโยบายจากภาครัฐ หรือให้มีรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารประเทศ เพราะจะต้องใช้เวลาตามกระบวนการต่างๆ อีกอย่างน้อย 6 – 7 เดือน จึงอาจทำให้ผู้ประกอบการบางส่วนได้รับผลกระทบสูงถึงขั้นต้องปิดกิจการหากหากไม่มีมาตรการใดมารองรับ

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ห่วงพิษการเมืองเล่นงาน เอสเอ็มอีหนี้ท่วม

Posts related