นายอาทิตย์ วุฒิคะโร รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย  เปิดเผยว่า กองทุนฯ ยังไม่ได้หนังสือจากคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย(กอน.) เพื่อหารือเกี่ยวกับการพิจารณาเงินเพิ่มค่าอ้อยฤดูการผลิต 56/57 ให้แก่ชาวไร่อีกตันละ 160 บาท เพิ่มเติมจากเงินอ้อยขั้นต้นที่ 900 บาท เมื่อได้รับหนังสือแล้ว จะเร่งนัดประชุมกรรมการกองทุนฯ ทันที ส่วนกอน.จะนำเรื่องส่งให้ครม.อนุมัติได้ภายในวันที่ 6 พ.ค. 57 ตามที่ชาวไร่อ้อยกำหนดไว้ได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการตอบกลับข้อพิจารณาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ กอน. ส่งหนังสือหารือไปทั้ง 6 หน่วยงาน คือ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ , กระทรวงพาณิชย์ , กระทรวงการคลัง , กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) และกองทุนฯ                 ทั้งนี้ หาก ครม. อนุมัติเงินเพิ่มออกมาแล้ว กองทุนฯ จะเร่งดำเนินการกระจายเงินไปสู่ชาวไร่ให้เร็วที่สุด โดยส่วนตัวเห็นว่า นโยบายที่ถูกต้องจะต้องมีการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย ไม่เช่นนั้นจะเกิดปัญหาหนี้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง  เพราะที่ผ่านมาเงินกู้จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธกส.)ที่นำมาจ่ายเป็นเงินเพิ่มค่าอ้อยในแต่ละปีจะต้องใช้เวลาชำระ 15-16 เดือน ไม่สามารถชำระหมดภายในรอบ 12 เดือนได้ เนื่องจากรายได้หลักของกองทุนฯ ที่นำมาชำระหนี้โดยการเก็บจากราคาน้ำตาลทราย 5 บาทต่อก.ก. มีเข้ามาเดือนละ1,000-1,100 ล้านบาทเท่านั้น  ส่วนฤดูการผลิต 56/57 หากต้องจ่ายเงินเพิ่ม 160 บาทต่อตัน คาดว่า จะต้องมีการกู้ยืมประมาณ 16,000 ล้านบาท อาจจะต้องใช้เวลาชำระหนี้ถึง 17 เดือน หรือชำระหนี้หมดประมาณเดือนต.ค. 58  เนื่องจากแนวโน้มการบริโภคน้ำตาล ชะลอลงตามภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งจะส่งผลให้รายได้ที่เก็บจากราคาน้ำตาลเพื่อใช้ชำระหนี้จะลดลงด้วย        นายสมศักดิ์  สุวัฒิกะ เลขาธิการ สอน. กล่าวว่า ยังรับปากไม่ได้ว่าจะสามารถส่งเรื่องเงินเพิ่มค่าอ้อยให้ ครม.ได้ภายในวันที่ชาวไร่ต้องการหรือไม่เพราะต้องรอความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และรัฐบาลจะอนุมัติเงินเพิ่มหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ ครม. เพราะบางส่วนอาจจะมองว่าเป็นการอนุมัติวงเงินที่สร้างภาระผูกพันไปรัฐบาลถัดไปหรือเป็นการหาเสียงหรือไม่ส่วนการหีบอ้อยฤดูกาล 56/57 ใกล้สิ้นสุดแล้วคาดว่าจะปิดหีบที่ประมาณ 105 ล้านตันอ้อย ซึ่งเป็นปริมาณผลผลิตที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์และค่าความหวานเฉลี่ยดีขึ้นมาอยู่ที่ 12.56 ซี.ซี.เอส. ดีกว่าปีที่ผ่านมาที่ค่าความหวานเฉลี่ยอยู่ที่ 11.65 ซี.ซี.เอส.  

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : อุตฯยืนยันไม่รับปากดันราคาอ้อย

Posts related