วันนี้ (27 เม.ย.) ดร.สงกรานต์ อักษร รองอธิบดี กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า จากปรากฎการณ์ดวงอาทิตย์ตั้งฉากกับกรุงเทพมหานครในวันนี้ (27 เม.ย.) เวลาประมาณ 12.16 น. ตามเวลาประเทศไทย  โดยอยู่เหนือศรีษะพอดี ทำให้พื้นที่กรุงเทพฯ ได้รับพลังงานความร้อนจากดวงอาทิตย์อย่างเต็มที่ จนทำให้หลายคนคาดการณ์ว่าจะทำให้อากาศร้อนที่สุดในรอบปีนั้น กรมอุตุฯ วัดอุณหภูมิได้ที่ 35-36 องศาเซลเซียส และจะสูงขึ้นเป็น 37-38 องศาเซลเซียส ในช่วงเวลา 14.00-15.00 น. ซึ่งถือยังไม่ร้อนที่สุดเพราะมีความกดอากาศสูงเข้ามาทำให้มีเมฆมาก  โดยอุณหภูมิเมื่อวันที่ 26 เมษายนที่ผ่านมา ช่วงเวลา 14.00 น.อยู่ที่ประมาณ 38 องศาเซลเซียส ทั้งนี้ ทุกปีมีการคาดการณ์ว่าวันที่ 27 เม.ย.เป็นวันที่ร้อนที่สุดของกรุงเทพฯ แต่สถิติที่ผ่านมาไม่ใช่วันที่ร้อนที่สุด  และกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าอากาศของกรุงเทพฯ จะร้อนสูงสุดในช่วงต้นเดือน พ.ค. และจะร้อนถึงกลางเดือน พ.ค.เป็นอย่างน้อย ก่อนเข้าสู่ฤดูฝนอุณหภูมิจึงจะค่อยๆ ลดลง สำหรับสถิติที่วัดได้ปีที่แล้ว กทม.ร้อนสูงสุดที่ 40 องศาเซลเซียส สำหรับภาพรวมทั้งประเทศคาดว่าประเทศไทยจะร้อนที่สุดต้นเดือน พ.ค.ที่อุณหภูมิ 38-39 องศาเซลเซียส ถือว่าไม่ร้อนจัดเหมือนทุกปีเพราะมีความกดอากาศสูงเข้ามาเป็นระลอก และหลังจากนั้นจะเข้าสู่ฤดูฝนในช่วงปลายเดือน พ.ค. ซึ่งปีนี้เข้าสู่ฤดูฝนช้ากว่าทุกปีเพราะฤดูหนาวนานกว่าทุกปีจึงมีผลต่อการเข้าสู่ฤดูร้อนและฤดูฝน ขณะที่พื้นที่ที่มีแนวโน้มร้อนที่สุดของประเทศอยู่ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน  ซึ่งเคยมีสถิติสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส และแม่ฮ่องสอนเคยทำสถิติสูงสุดที่ 44 องศาเซลเซียส ในปี 2553 เป็นสถิติร้อนที่สุดของประเทศ ส่วนภาคกลางจะร้อนที่สุดที่จังหวัดกาญจนบุรี สำหรับอุณหภูมิในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่วัดได้ร้อนสุดของวันที่ 27 เม.ย.2557 พบว่าท่าเรือคลองเตย มีอุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 38.2 องศาเซลเซียสกว่าๆ ใกล้เคียงกับเมื่อวันที่ 26 เม.ย.57 อยูที่ 38 องศาเซลเซียส ในขณะที่ภาคกลางอุณหภูมิสูงสุดที่กาญจนบุรี อยู่ที่ 38.9 องศาเซลเซียส ใกล้เคียงกับวันที่ 26 เม.ย.ที่ 38.6 องศาเซลเซียส ส่วนภาคเหนือ อุณหภูมิที่แม่ฮ่องสอนสูงสุดที่ 38.1 องศาเซลเซียส ลดลงจากเมื่อวาน (26 เม.ย.) ที่มีอุณหภูมิอยู่ที่ 40.9 องศาเซลเซียส ส่วนภาคอีสาน อุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 37.8 องศาเซลเซียส ลดลงจากเมื่อวาน (26 เม.ย.) ที่มีอุณหภูมิอยู่ที่ 39.8 องศาเซลเซียส ในขณะภาคใต้อุณหภูมิอยู่ในระดับใกล้เคียงกันที่ 35-36 องศาเซลเซียส ส่วนประกาศกรมอุตุวันที่ 27 เม.ย.57 เรื่อง พายุฤดูร้อน ในช่วงวันที่ 26–30 เม.ย.57 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงได้แผ่ลงมาปกคลุมถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือแล้ว จากนั้นจะแผ่ปกคลุมภาคกลาง และภาคตะวันออกในวันที่ 27 เม.ย.57 ซึ่งจะปกคลุมต่อเนื่องจนถึงวันที่ 30 เม.ย.57 ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และอาจมีลูกเห็บตกได้ในบางพื้นที่ ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะภาคเหนือบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ น่าน ลำพูน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก พิษณุโลก และเพชรบูรณ์, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือบริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม และร้อยเอ็ด ,ภาคกลางบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ลพบุรี สระบุรี และกรุงเทพมหานครรวมทั้งปริมณฑล, ภาคตะวันออกบริเวณจังหวัดปราจีนบุรี สระแก้ว ระยอง จันทบุรี และตราด ระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อน ซึ่งอาจสร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สิน ป้ายโฆษณา ต้นไม้ใหญ่ และสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรงในช่วงเวลาดังกล่าวไว้ด้วย ในขณะที่ วันที่ 28 เม.ย.-3 พ.ค. จะมีเมฆเป็นส่วนมาก และโอกาสมีพายุฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง ร้อยละ 40-60 อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : อุตุฯ ย้ำ ไทยร้อนสุด ต้นเดือนพ.ค.

Posts related