รายงานข่าวจากศูนย์วิจัยกสิกรไทยแจ้งว่า  จากการสำรวจพฤติกรรมของคนกรุงเทพฯ เกี่ยวกับการทำกิจกรรมในช่วงวันหยุดเทศกาลเข้าพรรษาระหว่างวันที่ 11- 14 ก.ค.พบว่า คนกรุงเทพฯเลือกที่จะไปทำบุญไหว้พระในช่วงเทศกาลเข้าพรรษามากเป็นอันดับ 1  โดยเฉพาะวัดวาอารามใกล้ที่พำนักอาศัยในปัจจุบันรองลงมาคือ  พักผ่อนตามต่างจังหวัดและเลือกไปทัวร์ทำบุญไหว้พระหรือเดินทางไปทำบุญเป็นหมู่คณะในต่างจังหวัด คาดว่าเทศกาลเข้าพรรษาสร้างเม็ดเงินสะพัดประมาณ 1,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.3% ซึ่งเป็นอัตราที่ชะลอตัวลงจากปีก่อนที่เติบโต6.7%   สำหรับกิจกรรมที่นิยม ทำบุญไหว้พระ 3 อันดับแรก คือ การไหว้พระขอพรสัดส่วน 32%  การถวายปัจจัย สังฆทานตามกำลังศรัทธา สัดส่วน  26% และการถวายเทียนพรรษา หลอดไฟ 22% รองลงมาคือถวายผ้าอาบน้ำฝนและการปฏิบัติธรรม เป็นต้น ส่วนธุรกิจค้าปลีกทั้งห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า และร้านค้าสะดวกซื้อ ที่จะจัดกิจกรรมให้สอดคล้องกับเทศกาลเข้าพรรษา ขณะที่ธุรกิจโรงแรมสายการบิน และธุรกิจอื่นๆที่เกี่ยวเนื่อง เช่น  ผู้ให้บริการบัตรเครดิตได้จัดโปรโมชั่นเพื่อดึงดูดลูกค้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น     ส่วนคนกรุงเทพฯที่มีภูมิลำเนาในต่างจังหวัดบางส่วนเดินทางกลับบ้านในต่างจังหวัดเพื่อร่วมงานบุญประเพณีในเทศกาลเข้าพรรษาซึ่งมีทั้งการเดินทางแบบค้างคืนและแบบเช้าไป-เย็นกลับการใช้จ่ายในการเดินทางไปต่างจังหวัดในช่วงวันหยุดเทศกาลเข้าพรรษามีแนวโน้มก่อให้เกิดเม็ดเงินสะพัดสู่ธุรกิจที่เกี่ยวข้องในต่างจังหวัดเพิ่มขึ้นกว่าช่วงปกติ    “แม้ว่าในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันส่งผลให้ผู้คนส่วนใหญ่ระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้นแต่สำหรับช่วงเทศกาลงานบุญช่วงวันอาฬหบูชาและวันเข้าพรรษาคนไทยจำนวนไม่น้อยยังคงนิยมไหว้พระทำบุญกันตามประเพณีที่สืบทอดกันมาซึ่งอาจจะส่งผลดีต่อธุรกิจและกลุ่มสินค้าต่าง ๆ   อาทิ ธุรกิจค้าปลีกที่จำหน่ายสังฆภัณฑ์   ขณะที่ธุรกิจบริการด้านอาหารและเครื่องดื่มธุรกิจของฝากของที่ระลึก และธุรกิจบริการเชื้อเพลิง พลังงานก็น่าจะได้รับอานิสงส์จากผู้คนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาในต่างจังหวัดแล้วเดินทางไปท่องเที่ยวไหว้พระในจังหวัดใกล้เคียง”    

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : เข้าพรรษาเงินสะพัด1,000ล้าน

Posts related