อาทิตย์ที่ผ่านมา ฟ้าฝนไม่เป็นใจกับคนกรุง แต่แท้จริง สภาพฝนที่ตกหนัก เกิดขึ้นคลุมพื้นที่ภาคกลาง รวมถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือก็หนักไม่น้อยหน้า ที่ทำให้ระอาใจ ก็จากสภาพการจราจรติดขัด เนื่องจากรถใช้ความเร็วไม่ได้ มีน้ำท่วมขังผิวทางหลายจุดและสัญญาณไฟจราจรชำรุด รวมถึงท่อประปาย่านประตูน้ำ แตก เลยร่วมเป็นกองหนุนให้เดือดร้อนกันทั้งเมือง น่าศึกษาปัญหาให้ถ่องแท้แล้วหาทางแก้ไขให้เป็นระบบ เพราะความเดือดร้อนมาจากรถติด แต่สาเหตุที่รถติด เนื่องจากถนนเปียก รถไม่กล้าใช้ความเร็ว  ประกอบกับมีน้ำนองขังบนผิวทาง หากฝนตกต่อเนื่องและปริมาณมากขึ้น ระบบสูบน้ำ มาตรฐานการทำงาน เพื่อระบายน้ำอย่างเดียวไม่พอ ทำอย่างไรให้บูรณาการร่วมกันเพื่อทำให้ถนนลื่น น้ำท่วม ก็ยังเลื่อนไหลไปได้ ช่วงครึ่งหลังของเดือนตุลาคม เป็นระยะเริ่มเข้าหน้าหนาว ซึ่งอาจมีความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงแผ่เข้ามา ยังไม่หนักหนาถึงขั้นต้องเตรียมชุดรับความหนาวเหน็บ และบางวันอาจมีฝนได้            ลมหนาวที่จะมาระลอกใหม่ 19-23 ต.ค. กรมอุตุนิยมวิทยาคาดว่า จะทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก มีฝนลดลง อากาศจะเย็นให้สัก 3-5 องศาเซลเซียส แน่นอน ถ้าลมเย็นมาถึงกรุงเทพฯ ภาคใต้ กับอ่าวไทย ก็จะมีลมตะวันออกจากทะเลจีนใต้พัดเข้ามาปกคลุม พื้นที่ด้ามขวานทองของไทย จึงมีฝนเพิ่มขึ้น และตกหนักบางแห่ง            ที่มาพร้อมกับลมหนาว ก็คือ สัญญาณความแห้งแล้ง เพราะนับจากกลางเดือน ต.ค. ปีนี้ ถึงกลางเดือน พ.ค.ปีหน้า จะเป็นช่วงฤดูแล้ง กรมอุตุฯ แนะว่า ตอนนี้ ยังมีน้ำอยู่บ้าง เกษตรกรควรวางแผนการใช้น้ำ และการเก็บกักให้มีประสิทธิภาพ จะได้มีน้ำใช้ในช่วงที่มีฝนตกน้อย พยากรณ์อากาศภาคการเกษตร บอกว่า ระยะนี้ อากาศจะเปลี่ยนแปลง เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ ควรควบคุมอุณหภูมิในโรงเรือน อย่าให้เปลี่ยนเร็ว เพื่อป้องกันสัตว์ปรับตัวไม่ทัน จะอ่อนแอและเป็นโรคง่าย บางช่วงมีลมแรงอุณหภูมิลดลง ก็ต้องเตรียมความอบอุ่นในโรงเรือน พร้อมกับทำแผงกำบังลมหนาว โดยเฉพาะสัตว์ที่ยังเล็ก ถ้าเป็นกลุ่มอาชีพเลี้ยงสัตว์น้ำ บางช่วงจะเจอปัญหาอุณหภูมิลดลง ก็ควรลดอาหาร เพราะสัตว์จะกินได้น้อย ให้ไปมาก กลายเป็นของเหลือที่ทำให้น้ำเน่าเสียได้ กลุ่มผู้ปลูกพืชไร่ ตอนนี้ ถ้าจะปลูกยังทำได้ เพราะความชื้นในดินมีอยู่ แต่ต้องคำนวณปริมาณน้ำสำรองให้มีมากพอ สำหรับพืชระยะเจริญเติบโต และผลิดอกออกผล  โดยต้องระวังการขาดแคลนน้ำ เพราะถ้าพืชได้รับน้ำไม่พอ ผลผลิตก็ลดลง หรือหากขาดน้ำก็อาจไม่ได้ผลผลิตเลย สำหรับไม้ผล กรมอุตุฯ ฟันธงว่า จากนี้ไปฝนจะลดลง อากาศจะแห้ง ไม้ผลที่อยู่ในระยะพักตัว เพื่อแตกตาดอก อาจเจอการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด ที่จะมีตัวอ่อนและตัวเต็มวัย แย่งดูดกินน้ำเลี้ยง จนต้นชะงักการเจริญเติบโต ส่งผลต่อการแตกตาดอกในระยะต่อไป อากาศกับการดำรงชีวิต โดยเฉพาะผู้ประกอบอาชีพการเกษตร ต้องรับผลอย่างช่วยไม่ได้ การใส่ใจติดตามข่าวอากาศอย่างใกล้ชิดจึงจำเป็นอย่างยิ่ง ปัจจุบันมีเครื่องมือที่ช่วยให้การติดตามข่าวสารสะดวกมากขึ้น การพยากรณ์ของกรมอุตุฯ และหน่วยงานอื่นก็แม่นยำมากขึ้น โดยหน่วยหลักที่เชื่อถืออ้างอิงได้ มีเพียงกรมอุตุฯ เท่านั้น เวลานี้กรมอุตุฯ ได้พัฒนาระบบ เฝ้าระวังติดตามและพยากรณ์อากาศ โดยนำข้อมูลต่าง เช่นเส้นทางพายุและการเตือนภัย มารายงานไว้บนเว็บไซต์ที่เพิ่งเปิดขึ้น www.metalarm.tmd.go.th ซึ่งยินดีรับฟังข้อเสนอแนะเพื่อนำมาปรับปรุงให้ดี น่าชื่นชมกับระบบที่จัดทำขึ้นใหม่ แต่ในปัจจุบัน จำนวนการใช้อินเทอร์เน็ตบนมือถือแพร่หลายมากขึ้น แทนการเปิดเว็บไซต์ควรเร่งให้มีแอพบนมือถือ เพื่อรายงานข้อมูลให้ติดตามแบบเรียลไทม์ โซเชียลมีเดีย ซึ่งเป็นแหล่งรายงานข่าวสารชั้นดี ควรมีชื่อของกรมอุตุฯ ไปเสนอตัวรายงานข้อมูลบ้าง เช่นเวลาฝนฟ้าไม่เป็นใจ คนอยากทราบสถานการณ์ล่าสุด เพื่อการปรับตัว ก็ควรมีคำตอบ กรมอุตุฯน่าจะทำเรื่องทันสมัยได้ดีไม่แพ้ใครอยู่แล้วไม่ใช่รึ. หยาดน้ำฟ้า

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : เครื่องเตือนภัย – รู้หลบ

Posts related