น.ส.จุฬารัตน์ สุธีธร ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า ในสัปดาห์หน้า สบน.จะได้ข้อสรุปเรื่องแผนการกู้เงินรอบที่ 2 อีก 42,431 ล้านบาท เพื่อนำไปชำระคืนสภาพคล่องให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ที่ใช้ทยอยจ่ายให้กับเกษตรกรในโครงการรับจำนำข้าวไปก่อนหน้านี้ เบื้องต้นมีแนวทางทางดำเนินการกู้ 2 ลักษณะคือ การออกพันธบัตรระยะสั้น 3 ปี อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 2% หรือการกู้เงินโดยตรงจากสถาบันการเงิน (เทอมโลน) ซึ่งมีข้อดีคือเมื่อขายข้าวคืนก็สามารถทยอยจ่ายคืนได้ทันที ไม่เหมือนกับการออกพันธบัตร ทั้งนี้ การกู้เงินดังกล่าวต่อเนื่องจากการเปิดวงเงินกู้ 50,000 ล้านบาท ที่จะเปิดประมูลในวันที่ 3 มิ.ย.นี้ เพื่อนำไปชำระคืนให้เกษตรกรในโครงการรับจำนำข้าว 92,000 ล้านบาท โดยวงเงินกู้รอบแรก จากการหารือกับสถาบันการเงินเบื้องต้น คาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดี โดยสถาบันการเงินบางรายมีข้อเสนอที่จะให้อัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าที่กำหนดที่ ไบบอร์ ระยะเวลา 6 เดือน ที่ 2.27% หรือในอัตราไบบอร์ ลบ ซึ่งวงเงินดังกล่าวจะทยอยจ่ายคืนให้กับ ธ.ก.ส. 2 รอบ คือ วันที่ 6 มิ.ย.ที่ 30,000 ล้านบาท และวันที่ 10 มิ.ย.นี้ ที่ 20,000 ล้านบาท ด้านนายธัชพล กาญจนกูล  รักษาการผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการธนาคารเมื่อวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา เห็นชอบที่จะร่วมประมูลวงเงินกู้ในโครงการรับจำนำข้าวทั้งหมด 50,000  ล้านบาท เนื่องจากขณะนี้สภาพคล่องของธนาคารมีสูงถึง 280,000 ล้านบาท ซึ่งประเมินแล้วว่าถ้าเข้าไปร่วมประมูลได้ทังหมด อีกทั้งสามารถปล่อยกู้ได้ตามแผนที่ 80,000 ล้านบาท ธนาคารก็ยังมีสภาพคล่องเหลือเพียงพอในระดับที่เหมาะสม “วงเงินกู้โครงการรับจำนำข้าวเชื่อว่าสถาบันการเงินทุกแห่งจะให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ที่จะมาร่วมประมูลแน่นอน คือ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารทหารไทย และธนาคารกรุงไทย ซึ่งทั้งหมดยังไม่ได้มีการเสนอเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการธนาคาร เชื่อว่าคงมีการแข่งขันกันอย่างรุนแรง โดยเฉพาะอัตราดอกเบี้ยที่จะเสนอ” นายธัชพล กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ อยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะร่วมประมูลเงินกู้ล็อตที่ 2 อีก 42,000 ล้านบาทหรือไม่ โดยในส่วนนี้ ต้องพิจารณาถึงความเหมาะสม แต่สภาพคล่องที่มีอยู่ ก็เพียงพอที่จะเข้าร่วมประมูลได้ ซึ่งไม่กระทบต่อผลการดำเนินงานธนาคาร

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : เคาะแนวทางกู้จำนำข้าว4หมื่นล้านสัปดาห์หน้า

Posts related