สนข.เคาะพื้นที่ 7 แปลง เหมาะพัฒนาเชิงพาณิชย์รองรับไฮสปีดเทรน กรมธนารักษ์เร่งขอความร่วมมือจังหวัดตรวจสอบพื้นที่ก่อนเวนคืนที่ดิน
นายชาญณัฏฐ์ แก้วมณี รองอธิบดีกรมธนารักษ์  เปิดเผยว่า   สํานักงานนโยบายและ แผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้สรุปแผนเบื้องต้นเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากที่ราชพัสดุในแนวรถไฟฟ้าความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) ตามแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งของประเทศ ภายใต้วงเงิน 2 ล้านล้านบาทของรัฐบาล โดยมีพื้นที่ 7 แปลงที่ เหมาะสมในการพัฒนาศักยภาพก่อสร้างโครงข่ายรองรับไฮสปีดเทรน แบ่งเป็นพื้นที่ในจังหวัดนครราชสีมา 4 แปลง  จังหวัดพิษณุโลก 1  แปลง จังหวัดนครสวรรค์ 1 แปลง  และจังหวัดลพบุรี 1 แปลง   “พื้นที่ จ.ลพบุรีกว่า 40  ไร่ จะเจาะเป็นอุโมงค์รถไฟฟ้า เพราะเป็นพื้นที่รอบบริเวณพระปรางสามยอด จึงต้องทำเป็นอุโมงค์ เพื่อไม่ให้กระทบโบราณสถาน ส่วนพื้นที่ จ.นครสวรรค์  3,300  ไร่นั้น เหมาะเป็นพื้นที่สาธารณะโครงข่ายถนนโดยรอบ  ส่วนที่ต.จันทึก จ.นครราชสีมา และต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมาพื้นที่ 549 ไร่ เหมาะสมก่อสร้างสถานีรถไฟความเร็วสูง และกำลังดูว่าพื้นที่ที่อยู่รอบสถานีรถไฟฟ้าสามารถพัฒนาและใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ได้หรือไม่  โดยหากดำเนินการได้จะเป็นการสร้างรายได้ให้รัฐเพิ่มขึ้น” ทั้งนี้ได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยให้จังหวัดเป็นผู้ตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว เพื่อขอพื้นที่คืน ซึ่งต้องรอคำตอบว่าพื้นที่ไหนที่สามารถเข้าไปใช้พื้นที่ได้และพื้นที่ไหนที่เข้าไปไม่ได้ เพราะบางพื้นที่หน่วยงานราชการตั้งอยู่    โดยหากได้ข้อมูลทั้งหมดแล้วสนข.ต้องไปวางแผนการดำเนินงานและเสนอกลับมาให้กรมฯพิจารณาอีกครั้งก่อนที่จะขอเวนคืนที่ดินมาใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ “ส่วนกรณีที่ประชาชนที่บุกรุกในพื้นที่ราชการนั้น เมื่อถึงเวลาขอพื้นที่คืนก็ต้องยอมรับว่า อาจมีการต่อต้านบ้าง แต่เชื่อว่าทุกฝ่ายจะหารือด้วยเหตุผล  เพราะพื้นที่ที่ขอคืนนั้นเป็นการสร้างประโยชน์ให้กับรัฐ  อย่างไรก็ตาม  กรมฯ มีรายได้จากให้เช่าที่ราชพัสุดปีละ 3,000-4,000 ล้านบาท   จากปัจจุบันพื้นที่ราชพัสดุทั่วประเทศมี 12.5 ล้านไร่ สัดส่วน 99%  เป็นพื้นที่ให้หน่วยงานราชการเช่า และส่วนที่พัฒนาเชิงพาณิชย์มีเพียง 1% “  

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : เคาะ7พื้นที่รองรับความเจริญจาก"ไฮสปีดเทรน"

Posts related