เจมาร์ท กรุ๊ป ตั้งเป้าอีก 4 ปี ทำรายได้ทะลุ 27,000 ล้านบาท ฟันกำไรหลักพันล้าน คาดปีนี้ โตอีก 35% จากยอดขายมือถือ 1.7 ล้านเครื่อง  นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจมาร์ท จำกัด (มหาชน) เล่าว่า เจมาร์ท ดำเนินธุรกิจมาปีนี้เข้าสู่ปีที่  25 ถือเป็นความภาคภูมิใจและประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง โดยกลยุทธ์ปีนี้ จะเน้นกลยุทธ์เชิงรุกอย่างจริงจังมากขึ้น อย่างไรก็ตาม 3 ปีที่ผ่านมารายได้ของเจมาร์ทมีการเติบโตอย่างเห็นได้ชัดและมีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% ทุกปี โดยปีที่ผ่านมาเติบโต 23% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านี้ รวมไปถึงมีการเติบโตของกำไรที่เพิ่มขึ้น แม้จะมีผลกระทบบ้างในช่วงไตรมาส 4 ทำให้กำไรไม่ตรงตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 40% แต่ก็ถือว่าต่ำกว่าไม่มากนัก  ทั้งนี้ จากการขยายตัวไปยังตลาดต่างจังหวัดให้ครอบคลุมทุกภาค เพื่อเป็นการเข้าถึงผู้บริโภค และการสร้างแบรนด์เจมาร์ทให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ปีนี้คาดว่าเจมาร์ทจะมีรายได้กว่า 12,500 ล้านบาท  “ส่วนการลงทุนปีนี้จะอยู่ที่ 1,760 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาที่ลงทุนที่ 730 ล้านบาท ปีนี้รายได้กลุ่มเจมาร์ทจะโตกว่า 35% และกำไรจะอยู่ที่ 25% ส่วนอีก 4 ปี (2560) คาดว่ารายได้ทั้งกลุ่มจะอยู่ที่ 27,000 ล้านบาท และกำไรจะอยู่ที่ 1,000 ล้านบาท ถือว่าไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็น่าจะเป็นไปได้”  ทั้งนี้ กลุ่มเจมาร์ท มีธุรกิจหลัก 3 กลุ่ม คือ ธุรกิจกลุ่มมือถือของเจมาร์ท ธุรกิจติดตามหนี้สินของ บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวิร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด  (มหาชน) หรือ JMT และ ธุรกิจบริการพื้นที่ให้เช่า ของ บจก.เจเอเอส แอสเซ็ท หรือ JAS นายอดิศักดิ์ มองว่าปีนี้กลุ่มธุรกิจจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ และอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ จะยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยตลาดรวมโทรศัพท์มือถือทั้งปีจะอยู่ที่ 25 ล้านเครื่อง แม้ว่าปัจจัยภายนอกจะเป็นลบ แต่จากการขยายโครงข่าย 3จีครอบคลุมทั่วประเทศ และโครงข่าย 4จีของโอปเรเตอร์ทั้ง 3 ราย จะเป็นปัจจัยหนุนให้ตลาดยังคงเติบโต  “ปีที่แล้วกลุ่มเจมาร์ท ขายโทรศัพท์เคลื่อนที่อยู่ที่ 1.2 ล้านเครื่อง โดยตั้งเป้าปีนี้จะขายได้ที่ 1.7 ล้านเครื่อง โดยปีนี้จะให้บริษัทในเครือเป็นดีลเลอร์ช่วยขายโทรศัพท์เคลื่อนที่ให้ด้วย จึงมั่นใจในเป้าการขายและเทรนการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ด้วย” เจมาร์ทได้เตรียมการขยายช่องทางต่าง ๆ ได้แก่ การขยายสาขาเจมาร์ท ช็อป ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด เพิ่มขึ้นเป็น 300 แห่ง จากปัจจุบันที่มี 255 แห่ง เพื่อให้ครอบคลุมทั่วประเทศ อีกทั้งเตรียมรีโนเวท ช็อปเดิมกว่า 36 แห่ง ให้มีความทันสมัย ด้วยงบลงทุนราว 252 ล้านบาท รวมทั้งเตรียมจัดงานเจมาร์ท โมบายโชว์ 2014 เพิ่มขึ้นเป็น 12 ครั้ง จากเดิม 7 ครั้ง ด้วยงบประมาณกว่า 85 ลบ. สำหรับการบริการพื้นที่ค้าปลีก ไอทีจังชั่น ศูนย์รวมร้านค้าจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่นั้น ปัจจุบันมีสาขารวม 42 สาขา มีพื้นที่บริหารกว่า 13,000 ตร.ม. และมีร้านค้าเช่ากว่า 1,400 ร้านค้า โดยในปีนี้ จะเพิ่มจำนวนเป็น 62 สาขา คาดว่าจะมีรายได้กว่า 470 ล้านบาท และภายใน 3 ปี จะมีสาขารวมกว่า 100 สาขา และมีรายได้กว่า 1,000 ล้านบาท  โดยในปีนี้ จะขยายธุรกิจใหม่ เปิดตัวโครงการ “The JAS” ศูนย์การค้าชุมชน (Neighbourhood Lifestyle mall) ที่รวบรวมสิ่งอำนวยความสะดวกครบวงจร เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ โดยเตรียมเปิดโครงการ “The JAS” ใน 2 สาขา ได้แก่ วังหิน และลาดปลาเค้า จะเปิดให้บริการสาขาวังหิน เป็นสาขาแรกภายในสิ้นปีนี้ และกลางปี 58 จะเปิดสาขาลาดปลาเค้าต่อ คาดจะใช้งบลงทุน 2 สาขา รวมกว่า 1,000 ล้านบาท  ส่วนการลงทุนธุรกิจที่ประเทศเมียนมาร์นั้น บริษัท ได้ทุ่มงบประมาณ 20 ล้านบาท โดยตอนนี้ยังบอกอะไรมากไม่ได้ รอดูอีก 5-10 ปีก่อน เชื่อว่าจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงและการเติบโตของการลงทุนครั้งนี้ จากจุดเริ่มต้นที่รู้จักในวงการค้าขายมือถือ แต่วันนี้ กลุ่มเจมาร์ท ประสบความสำเร็จโดยยึดหลักการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างคุ้มค่า ให้สมกับการลงทุนในแต่ละครั้ง. กัญณัฏฐ์ บุตรดี Kanyanat25@gmail.com

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : เจมาร์ท ฟุ้งอีก 4 ปี รายได้ทะลุ 2.7 หมื่นล.

Posts related