ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล (ลอตเตอรี่)ประจำงวดวันที่ 1 ก.ค.57 เป็นไปด้วยความคึกคักเนื่องจากมีประชาชนและพนักงานทีโอทีเดินทางเข้ารับชมการออกรางวัลจำนวนมาก ขณะที่ บรรยากาศซื้อขายลอตเตอรี่เป็นด้วยความเงียบเหงาโดยเฉพาะผู้ค้าแบบเรขายและจักรยานที่เหลือลอตเตอรี่อยู่เป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ก่อนการออกรางวัลมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ใบละ80 บาท สำหรับการออกรางวัลสลากฯครั้งนี้มี นายสรสิทธิ์ จงเจริญ ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษ กรุงเทพฯเป็นประธานออกรางวัล โดยรางวัลเลขท้าย 3 ตัวได้แก่ หมายเลข 441, 123, 864, 271 รางวัลเลขท้าย 2ตัว ได้แก่หมายเลข 39 และรางวัลที่ 1 ได้แก่หมายเลข 378477 ส่วนรางวัลที่ 1 พิเศษกลุ่มที่1 ได้แก่ ชุดที่ 11 หมายเลข 378477 และรางวัลที่ 1 พิเศษกลุ่มที่ 2 ได้แก่ ชุดที่69 หมายเลข 378477 โดยภายหลังจากเจ้าหน้าที่ได้แสดงหมายเลขของรางวัลที่ 1ออกมาแล้วเหล่าเซียนหวยที่เข้ามาเฝ้าชมการออกรางวัลต่างผิดหวังส่งเสียงบ่นอื้ออึงและเสียดายในตัวเลขดังกล่าวจำนวนมากเนื่องจากเลขที่ออกมาไม่ใช่ตัวเลขดังที่เก็งกันไว้ นางกุณฑีรา ตันติรังสีรักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักงานสลากฯ กล่าวว่า ขณะนี้ สำนักงานสลากฯ คาดว่าเงินรางวัลสลากที่หายไปเบื้องต้นคิดเป็นเงินรางวัลทั้งสิ้น 700,00 บาท แบ่งเป็น เลขท้าย 2 ตัว 400,000บาท เลขท้าย 3 ตัว 120,000 บาท และรางวัลที่ 3, 4 และ 5 รวมกันคิดเป็นเงินรางวัล180,000 บาท นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 28มิ.ย.ที่ผ่านมา  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคสช. ได้ลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการสลากฯ ใหม่ มีทั้งหมด 9 คนรวมประธานโดยมีผู้แทนในตำแหน่ง 4 คน จากกระทรวงมหาดไทย กรมบัญชีกลาง สำนักงบประมาณสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย และผู้อำนวยการสลากฯ ที่เป็นกรรมการโดยตำแหน่ง ซึ่งคนนอกที่แต่งตั้งโดยมติคสช. 4 คน ประกอบด้วย นายสมชัย สัจจพงษ์ อธิบดีกรมศุลกากร ประธานกรรมการสลากฯ, พล.ต.สราวุธกาพย์เดโช กรรมการ, นายพรศักดิ์ ศรีณรงค์ กรรมการ และนายชัยพร ธรรมพีร กรรมการ ทั้งนี้ การเข้าไปตรวจสอบการขายสลากไม่ให้เกินใบละ80  บาทนั้นกองสลากจัดเตรียมเจ้าหน้าที่ไว้ 10 ทีมเพื่อไปสุ่มตรวจราคาสลากยังตลาดและแผงค้าต่างๆ ตั้งแต่วันที่ 2 ก.ค.เป็นต้นไป หากตรวจพบผู้ค้ารายใดขายสลากเกินราคากองสลากจะยกเลิกโควตาทันที ซึ่งตรงนี้เป็นอำนาจที่สลากทำได้ ไม่ต้องเสนอเข้าบอร์ด อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบราคานั้นอาจจะมีทีมของตำรวจและทีมของ คสช.ด้วย แต่การไปตรวจจะแยกกันกับทีมของสลากฯ  หากตำรวจหรือคสช.ตรวจพบการขายเกินราคาก็จะส่งรายชื่อมาให้สำนักงานสลากฯ เพื่อยกเลิกโควตาส่วนผู้ที่ถูกตำรวจจับนอกจากถูกตัดโควตาแล้วยังมีโทษปรับตามกฎหมายที่กำหนดไว้ด้วยซึ่งตามพ.ร.บ.สลากฯ โทษปรับคือ 2,000 บาท ขณะที่ การเรียกร้องโควตาของคนพิการนั้นกองสลากฯได้เสนอการจัดสรรโควตาเพื่อคนพิการที่ขึ้นทะเบียนไว้และได้มีการคัดเลือกผู้พิการที่ได้รับสลากไปเมื่อช่วงปลายปี2557ที่ผ่านมา ไปยังนายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ปลัดกระทรวงการคลัง แล้ว โดยเสนอไปว่าจะเพิ่มโควตาอีก 2 ล้านฉบับดังนั้นขึ้นอยู่กับทางฝ่ายนโยบายว่าจะให้ดำเนินการอย่างไร สำหรับการตรวจสอบพนักงานที่ถูกกล่าวว่าว่ารับใต้โต๊ะนั้นทางกองสลากฯ กำลังเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร ซึ่งตรวจสอบไม่ยากเพราะการคละเลขสลาก เพื่อจ่ายโควตาให้ผู้ค้านั้นจะมีบันทึกไว้หมด ว่าพนักงานจ่ายสลากให้กับรายได้เลขไหนบ้าง แต่ขณะนี้ผู้ที่รับผิดชอบยังไม่ได้รายงานขึ้นมาเพราะเพิ่งสั่งการไปเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา “ตั้งแต่สลากหายและการประกาศคุมราคาสลาก 80บาทส่งผลให้ยอดขายสลากฯ งวดนี้ซบเซามาก ล่าสุดสลากฯ งวดวันที่ 1 ก.ค.57 ยังตลาดค้าใหญ่แยกคอกวัวเหลือแค่ใบละ 74-75บาท ต่ำกว่าต้นทุนของผู้ค้ารายย่อยที่รับไป 74.40 บาทและมีสลากเหลือจำนวนมาก เนื่องจากผู้ซื้อชะลอการซื้อ การขายสลากหากเหลือมากก็ไม่ดีและเป็นผลลบที่จะเกิดขึ้นเช่นกัน” สำหรับการเรียกร้องค่าการชดเชยจากไปรษณีย์1.7 ล้านบาท เพราะทำสลากหายนั้น ขณะนี้ไปรษณีย์ยังไม่มีการตอบกลับมาว่าจะจ่ายหรือไม่อย่างไรก็ตามมีการแจ้งไปยังไปรษณีย์แล้วว่า หากไปรษณีย์จ่ายเงินตามมูลค่าสลากที่หายและสลากนั้นถูกรางวัล รางวัลจะตกเป็นของไปรษณีย์ซึ่งประเมินเบื้องต้นสลากที่หายต้องถูกรางวัลเลขท้าย 2ตัวมูลค่าถึง 400,000 บาท แต่ถ้าไปรษณีย์ไม่จ่ายเงินรางวัลจะตกเป็นของแผ่นดิน และต้องนำเงินรางวัลดังกล่าวส่งเข้าคลังโดยในการส่งเงินรางวัลเข้าคลังมีระเบียบว่า ต้องเก็บเงินรางวัลไว้ก่อน 2 ปี จึงจะนำส่งเข้าคลังได้ อย่างไรก็ตามสลากฯที่หาย 42,800 ฉบับที่ถูกอายัดไว้นั้น ประชาชนไม่มีสิทธิ์ถือมาขึ้นรางวัลโดยได้มีการล็อคคอมพิวเตอร์ไว้แล้วว่าเป็นสลากที่หายดังนั้นหากใครนำมาขึ้นรางวัลจะต้องถูกนำไปให้ตำรวจสอบสวนถึงที่มาของสลาก นายมนัส แจ่มเวหาอธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า ตามที่ คสช. มีมติให้ขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาฉบับละ80 บาท พร้อมขอความร่วมมือผู้ค้ารายย่อยอย่าขายแพงเกินราคาที่กำหนดไว้โดยได้มอบหมายให้ พล.ท.อนันตพร กาญจนรัตน์ ปลัดบัญชีทหารบก ในฐานะประธานคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ(คตร.) หารือกับสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเพื่อแก้ปัญหาสลากแพงนั้นกรมบัญชีกลางได้กำชับคลังจังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศให้กวดขันดูแลตัวแทนจำหน่ายสลากที่รับสลากจากสำนักงานคลังจังหวัดไปจำหน่าย ทั้งนี้ ให้จำหน่ายสลากตามราคาควบคุมตั้งแต่งวดวันที่ 16 ก.ค.57 เป็นต้นไปพร้อมทั้งจะควบคุมการจำหน่ายให้เป็นไปตามเงื่อนไขหลักเกณฑ์ที่กำหนดโดยเคร่งครัดเพื่อไม่ให้มีตัวแทนจำหน่าย จำหน่ายสลากเกินราคา โดยได้แจ้งเวียนตั้งแต่วันที่ 25มิ.ย.57 ซึ่งมาตรการนี้คาดหวังว่าจะเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ซื้อสลากและช่วยลดความรุนแรงของปัญหาสลากเกินราคาในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ตัวแทนจำหน่ายสลากของสำนักงานคลังจังหวัดตระหนักว่าต้องดำเนินการตามหลักเกณฑ์ดังกล่าว มิฉะนั้นจะถูกดำเนินคดีทางกฎหมายโดยให้คลังจังหวัดประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ. 2517 ซึ่งมีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาทและอาจมีความผิดตาม พ.ร.บ. การพนัน พ.ศ. 2478 มีโทษจำคุกไม่เกิน 1เดือนหรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ “ผมได้มอบนโยบายให้คลังเขตกำชับคลังจังหวัดให้ควบคุมดูแลตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่ความรับผิดชอบจำหน่ายสลากตามราคาหากพบตัวแทนจำหน่ายรายใดไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลกำหนดในสัญญาให้ระงับการเป็นตัวแทนจำหน่ายได้ทันที”

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : เซียนหวยคอตก ไร้เงาเลขดัง

Posts related