น.ส.จุฬารัตน์ สุธีธร ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า แผนการก่อหนี้ของรัฐบาล ปี 58 จะมีการปรับแผนเป็นการก่อหนี้ระยะยาวมากขึ้น เช่น การออกพันธบัตรรัฐบาล อายุ 30 ปี และ 50 ปี จากเดิมที่มีสัดส่วนประมาณ 30% เพิ่มเป็น 40% เนื่องจากที่ผ่านมาการรับฟังความคิดเห็นของนักลงทุนมีความสนใจที่จะลงทุนใน พันธบัตรระยะยาวมากขึ้น เช่น บริษัทประกันภัย ซึ่งการปรับแผนดังกล่าวจะทำให้ สบน.สามารถบริหารผลตอบแทนตราสารในระยะยาวได้คล่องตัวกว่า เนื่องจากการให้ผลตอบแทนนั้นไม่ได้มีช่วงต่างกันมาก เมื่อเทียบกับการก่อหนี้ระยะสั้น “สบน.จะหารือกับนักลงทุนที่ร่วมตลาดทั้งหมดเป็นครั้งสุดท้าย ช่วงเดือนก.ย.นี้ เพื่อฟังแนวโน้มความต้องการของตลาด และออกแบบผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสม ก่อนสรุปแผนการก่อหนี้ทั้งหมดในปี 58 เพื่อประกาศใช้ให้ทันในเดือนต.ค. หรือต้นปีงบประมาณใหม่” ทั้งนี้ การก่อหนี้ ปี 58 เบื้องต้นจะอยู่ที่ประมาณ 150,000 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้ในโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่มีความพร้อม ที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เห็นชอบ แบ่งเป็นการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปี 20,000 ล้านบาท การกู้เพื่อลงทุน 65,000 ล้านบาท การร่วมลงทุนกับภาคเอกชนในรูปแบบพีพีพี 7,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีส่วนที่รัฐวิสาหกิจจะกู้เพื่อลงทุนเอง 20,000 ล้านบาท และใช้รายได้ของตัวเองมาลงทุนอีก 43,000 ล้านบาท โดยสัปดาห์นี้จะประชุมแผนการบริหารหนี้ปี 58 ว่าจะลงทุนในโครงการใดบ้างกับ คสช.  

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : เตรียมกู้หนุนแผนลงทุน คสช.

Posts related