น.ส.ปวีณา ศรีโพธิ์ทอง ผู้ช่วยผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาสแรงของบริษัทจดทะเบียนใน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์รวม471บริษัท หรือ92.17%จากทั้งหมด511บริษัท พบว่า มียอดขาย 2.827 ล้านบาท เพิ่มขึ้น5.85%จากช่วงเดียวกันปีก่อนมีกำไรสุทธิ 220,296 ล้านบาท ลดลง 9.92% เนื่องจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และปัญหาการเมืองที่ยืดเยื้อ ทำให้ภาพรวมการทำกำไรของ บจ.ลดลงต่อเนื่องโดยธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ คือ ธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจสื่อและสิ่งพิมพ์ธุรกิจสายการบิน และธุรกิจหลักทรัพย์ทั้งนี้บจ.ที่มีกำไรสูงสุด5อันดับแรก คือ ปตท. ธนาคารไทยพาณิชย์ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียมธนาคารกสิกรไทย และ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือเอไอเอส ในขณะที่กลุ่มอุตสาหกรรม3อันดับแรกจาก8กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีกำไรสูงสุดได้แก่ ธุรกิจการเงิน ทรัพยากร และเทคโนโลยี สำหรับหมวดธุรกิจที่มีกำไรสูงสุด3อันดับแรกจาก28หมวดธุรกิจ ได้แก่พลังงานและสาธารณูปโภค ธนาคาร และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยทั้ง3หมวดมีกำไรสุทธิรวม145,297ล้านบาทคิดเป็น65.96% ของกำไรสุทธิรวมทั้งหมด และยอดขายรวมของทั้ง3หมวดคิดเป็น53.70%ของยอดขายรวมทั้งหมด“บจ.ยังสามารถทำยอดขาย และรักษาความสามารถในการทำกำไรได้ดี แต่ที่ผลออกมามีกำไรลดลง เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองยืดเยื้อ ส่งผลกระทบต่อภาพรวมของเศรษฐกิจ ขณะที่เศรษฐกิจโลกที่ค่อย ๆ ฟื้นตัวและการเติบโตของหลายอุตสาหกรรมในช่วงก่อนหน้าเช่น ธุรกิจธนาคาร อสังหาริมทรัพย์ และประกันชีวิต ยังมีผลประกอบการดี และมีรายได้ต่อเนื่องในปัจจุบัน จึงช่วยสนับสนุนช่วยให้ยอดขายโดยรวมยังเติบโตได้ อย่างไรก็ตามกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ลดลงรวมถึงค่าใช้จ่ายในการขาย และบริหาร และภาระดอกเบี้ยจ่ายที่เพิ่มขึ้น ทำให้กำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ และกลางในกลุ่มเซต 100 ลดลง 18.49%”

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : เปิดงบบจ.กำไรไตรมาสแรกหด

Posts related