วันนี้ (20 ธันวาคม 2556) ที่โรงแรมเซ็นจูรี่  พาร์ค  กรุงเทพ ฯ  สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์แห่งชาติและเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมกับ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) แถลงข่าวผลการสำรวจมูลค่าตลาดสื่อสาร และตลาดคอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์ของประเทศไทย ประจำปี 2555-2556 และประมาณการปี 2557 โดยนางชฎามาศ ธุวะเศรษฐกุล รองผู้อำนวยการ สวทช.  กล่าวว่า การสำรวจดังกล่าว เริ่มจัดเก็บข้อมูลตั้งแต่เดือนมีนาคม-ตุลาคม 2556  โดยเน้นการสัมภาษณ์เชิงลึกจากผู้ประกอบการรายสำคัญในอุตสาหกรรม  กว่า 40 ราย แล้วนำมาประมวลผลร่วมกับข้อมูลทุติยภูมิอื่นๆ รวมถึงการจัดประชุมระดมความคิดเห็นเพื่อตรวจทานความถูกต้องของข้อมูล ทั้งนี้ ผลสำรวจในปีนี้จะมุ่งเน้นเฉพาะตลาดสื่อสารโทรคมนาคม และตลาดคอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์                 นายจำรัส  สว่างสมุทร  ผู้อำนวยการ สถาบันส่งเสริมความเป็นเลิศทางเทคโนโลยีอาร์เอฟไอดีแห่งประเทศไทย และที่ปรึกษาโครงการสำรวจตลาดฯ เปิดเผยถึงผลสำรวจว่า ภาพรวมของตลาดสื่อสารปี 2556 มีมูลค่า 466,526 ล้านบาท เติบโตจากปี2555 ประมาณ 5.2 %   ส่วน ในปี2557 คาดว่าจะมีอัตราเติบโต 8.4% หรือ คิดเป็นมูลค่า 505,831 ล้านบาทโดยมีปัจจัยหลักมาจากตลาดบริการสื่อสาร โดยเฉพาะการใช้งานโมบายอินเทอร์เน็ต  ที่ในปีนี้มีมูลค่า 11,571 ล้านบาท และคาดว่าปีหน้าจะเติบโตเพิ่มอีกกว่า 26.4 % หรือคิดเป็นมูลค่า 14,627 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากความนิยมรับข่าวสารทางโซเชียลมีเดียมากขึ้น                  ด้านตลาดสมาร์ทโฟนปี 2556 มีการเติบโต 24.2% จากปี 2555 คาดว่าเติบโตจะเพิ่มขึ้นเป็น 32.5% หรือคิดเป็นมูลค่า 60,996 ล้านบาท ภายในปี 2557  นอกจากนี้ ยังมีอุปกรณ์เสริมที่น่าจับตามอง เช่น เพาเวอร์แบงค์ และโมบายเราท์เตอร์ ที่คาดว่าจะได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากราคาที่มีแนวโน้มลดลง ส่วนตลาดคลาวด์ คอมพิวติ้ง  คาดว่าในปี 57 นี้ตลาดคลาวด์ประเภท IaaS (Infrastructure as a Service) จะมีมูลค่าประมาณ 834 ล้านบาท จากปี 2556 ที่มีมูลค่า 614 ล้านบาท                      สำหรับภาพรวมของตลาดคอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์ในปี 2556 หดตัวลงจากปี 2555 คือ เติบโตติดลบ 4% คิดเป็นมูลค่า 87,435 ล้านบาท เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจของประเทศชะลอตัว และภาคครัวเรือนซึ่งเป็นกลุ่มผู้ใช้หลักลดการใช้จ่ายลง ทั้งนี้ คาดว่าในปี 2557 ตลาดจะสามารถเติบโตได้ 4.3% หรือมีมูลค่า 91,174 ล้านบาท โดยเป็นการเติบโตตามกระแสอุปกรณ์พกพา ซึ่งมีความต้องการเพิ่มขึ้นอยู่ตลอดเวลา และมีระดับราคาต่อหน่วยลดลง ตลอดจนความนิยมนำอุปกรณ์พกพาส่วนตัวไปใช้ภายในที่ทำงานมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยด้านการใช้งานเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันทางธุรกิจ อาทิ ระบบคลาวด์ คอมพิวติ้ง และการจัดการข้อมูลขนาดใหญ่หรือบิ๊ก ดาต้า  เพื่อนำมาจัดการและวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาลที่แบ่งปันอยู่ในโลกโซเชียลมีเดียในหลายรูปแบบ  ซึ่งคาดว่าในปี 2557 องค์กรขนาดกลางและขนาดใหญ่จะเกิดการลงทุนด้านคอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์ และระบบโซลูชั่นเพื่อรองรับการใช้งานเทคโนโลยีเหล่านี้เพิ่มมากขึ้น ทำให้มูลค่าตลาดคอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์ภายในประเทศเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย                  นายจำรัส   กล่าวอีกว่า สำหรับปัจจัยบวกในการขับเคลื่อนตลาดปีหน้ามาจาก  การใช้ประโยชน์ของโครงข่าย 3จี 4จี กระแสของ ทีวีดิจิทัล  การเตรียมตัวรับการเปิดเออีซี และการเปิดรับข่าวสารผ่านสื่อออนไลน์มากขึ้น  โดยเฉพาะช่วงที่มีการชุมนุมทางการเมือง ซึ่งหลายๆ ภาคส่วนมองว่าความไม่มั่นคงทางการเมืองเป็นปัจจัยลบของอุตสาหกรรม แต่สำหรับตลาดสื่อสารและตลาดฮาร์ดแวร์โดยเฉพาะในกลุ่มแท็บเล็ตแล้วกลับมองเป็นปัจจัยบวก  เพราะมีการใช้งานดาต้า อย่างมากในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา  ขณะเดียวกันคาดว่าผู้ให้บริการรายใหญ่จำเป็นต้องขยายโครงข่ายการให้บริการและมีโซลูชั่นรองรับการใช้งานหากผู้ใช้งานจำนวนมากพร้อมๆ กันเพิ่มขึ้น                 อย่างไรก็ตาม ปัจจัยลบที่อาจทำให้มูลค่าไม่เติบโตตามที่คาดการณ์ไว้ คือความเชื่อมั่นของนักลงทุนซึ่งจะส่งผลต่ออัตราแลกเปลี่ยนภายในประเทศ ที่ทำให้ราคาอุปกรณ์ที่คาดว่าจะปรับลดลงนั้น อาจไม่ได้ลดลงมากอย่างที่คาดไว้ และภาระหนี้สินภาคครัวเรือนก็เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามกันต่อไปว่าจะมีผลกระทบต่อตลาดมากน้อยเพียงใด รวมถึงความไม่มั่นคงทางการเมืองซึ่งไม่ทราบว่าจะยืดเยื้อหรือไม่ คงต้องรอดู และหากสถานการณ์ยังไม่นิ่งจนถึงกลางปีหน้า อาจต้องมีการปรับประมาณการกันอีกครั้งเนื่องจากจะกระทบกับภาพรวมของตลาดไอที   โดยเฉพาะตลาดภาครัฐที่ขาดความต่อเนื่องและการผลักดันให้เกิดโครงการขนาดใหญ่

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : เผยตลาดสื่อสารฮาร์ดแวร์ไทยชะลอตัวคาดปีหน้าดีขึ้นจากโมบายอินเทอร์เน็ต

Posts related