นายนิยม ไวยรัชพานิช รองประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และประธานคณะกรรม การความร่วมมือเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน เปิดเผยว่าการค้าข้ามแดนไปยังประเทศเมียนมาร์ช่วงที่ผ่านมา มีมูลค่าสูงกว่าระยะเดียวกันถึง 22 เปอร์เซ็นต์ และถือว่าสูงที่สุดเมื่อเทียบกับการค้าชายแดนกับประเทศอื่น เช่น กัมพูชา ขยายตัว 19 เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่ประเทศลาวและมาเลเซีย ติดลบ การค้าข้ามแดนที่กำลังขยายตัวเช่นนี้ นายนิยมกล่าวว่าได้ประสานงานยังรัฐบาลให้ปรับปรุงด่านศุลกากรเพื่อให้การตรวจสอบสินค้าเร็วขึ้น โดยการขยายด่าน และระหว่างที่ การก่อสร้างยังไม่เสร็จ ควรใช้กฎหมายศุลกากรที่ให้ร่วมกับภาคเอกชนตั้งด่านเป็นคลังสินค้าชั่วคราว โดยให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรดำเนินกรรมวิธีการเพื่อส่งออกสินค้า แล้วทยอยส่งออก โดยใช้ช่องทางที่เหมาะสม ซึ่งทำแล้ว ที่ อ.แม่สอด จ.ตาก โดยสินค้าจะทยอยขนส่งทางเรือ เนื่องจากสะพานมิตรภาพรับน้ำหนักไม่ได้ ต้องรอคิวเป็นเวลานาน โดยด่านที่เห็นว่าควรปรับปรุงโดยด่วนได้แก่ ด่านสะเดา นอกจากนี้หากเกรงว่าจะมีสิ่งผิดกฎหมายหรือยาเสพติดใช้เป็นช่องทางขนส่ง ก็จัดเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมตรวจสอบ นายนิยมกล่าวอีกว่า สินค้าข้ามแดนที่ส่งเข้าบางประเทศ เช่น เมียนมาร์ ไม่ได้อยู่แค่พื้นที่ชายแดน แต่เป็นช่องทางให้เข้าสู่เมืองหลวงหรือเมืองใหญ่ของประเทศ เช่น ย่างกุ้งได้ ทำให้ปัญหาพิธีการส่งออกบางอย่างที่ยังไม่สะดวกออกไปได้ สำหรับผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมที่อยากเริ่มต้นค้าขายชายแดน นายนิยมแนะนำให้ประสานงานกับหอการค้าไทยหรือหอการ ค้าในจังหวัดชายแดน เพื่อขอการสนับ สนุนข้อมูลหรือคำแนะนำ โดยเบื้องต้นอาจใช้วิธีส่งสินค้าให้ผู้ประกอบการชาย แดนในท้องถิ่นก่อนได้ ด่านหลายแห่งที่มียอดการส่งสินค้าข้ามแดนปริมาณมาก ทำรายได้เข้าประเทศรวมกันมูลค่านับแสนล้านบาท ควรเร่งปรับปรุงและระหว่างนี้ก็ปรับวิธีการไปก่อน เช่น ด่านปอยเปต ด่านหนองคาย และด่านแม่สอด ในอนาคตด่านเชียงของ จ.เชียงราย ก็จะเพิ่มขึ้น และควรพิจารณาขยายเวลาเปิดด่านให้มากขึ้น เช่น ที่หนองคายและปอยเปต จาก 22.00 น. ควรให้ถึง 24.00 น.Ž นายนิยมกล่าวด้วยว่า ประเทศที่ยอดการค้าขายลดลงถึงระดับติดลบ เนื่องจากหลังการเจรจาทำความตกลงแล้ว ไม่สามารถดำเนินการต่อได้ เช่นการทำคอนแทกฟาร์มมิงที่ให้เอกชนลงทุนแต่ยังติดขัดข้อจำกัดกฎหมายบางประการอยู่. ………………………………………………… จับคู่แม่สอด-เมาะละแหม่ง น.ส.สกาว สืบสายเชื้อ เลขานุการเครือข่ายการค้าชายแดน เปิดเผยว่าทางเครือข่ายผู้ประกอบการค้าชายแดน อ.แม่สอด ได้นำคณะผู้ประกอบการไทยเดินทางไปร่วมเจรจาจับคู่ธุรกิจกับผู้ประกอบการชาวเมียนมาร์ ที่เมืองเมาะละแหม่ง และต่อมาผู้ประกอบการเมาะละแหม่งก็เดินทางมายังประเทศไทย โดยสายการบินนกแอร์ที่บินตรงระหว่าง อ.แม่สอด จ.ตาก ไปยังเมืองเมาะละแหม่ง ทำให้ผู้ประกอบการชายแดน 2 ประเทศได้พบคู่ค้าใหม่และทำยอดขายได้มากขึ้น และเร็ว ๆ นี้ ทางเครือข่ายกำลังจะจัดนำคณะเดินทางไปยังเมาะละแหม่งเพื่อการจับคู่ธุรกิจอีกครั้ง น.ส.สกาวกล่าวว่า สินค้าที่ผู้ประกอบการเมืองเมาะละแหม่ง ต้องการอย่างมาก ได้แก่ วัสดุก่อสร้าง เฟอร์นิเจอร์ พลาสติก เครื่องสีข้าวขนาดเล็ก โดยสินค้าจากไทยเป็นที่ชื่นชอบของชาวเมียนมาร์อยู่แล้ว ส่วนสินค้าจากเมาะละแหม่งที่จะขายให้กับผู้ประกอบการไทย ส่วนใหญ่เป็นพืชผลการเกษตร เช่น พริกไทย กระเทียม หอม ปลา และอาหารทะเล โดยยังมีที่ดินสวยใกล้ทะเล ที่มีทิวทัศน์สวยงามเหมาะกับการทำรีสอร์ท ภัตตาคาร บริเวณอ่าวเมาะตะมะที่ต้องการคนไทยไปลงทุนด้วย

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : เร่งรัฐปรับระบบด่านชายแดนเปิดช่องทางส่งเข้าเมืองหลวง

Posts related