นายสมศักดิ์ มุนีพีระกุล นายกสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ไทย เปิดเผยว่า สมาคมกำลังเร่งสร้างมาตรฐานการทำงานของนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ เพื่อรองรับความต้องการซื้อ-ขายบ้านมือสองที่เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งพัฒนาบุคคลากรให้มีวิชาชีพการทำงานทัดเทียมต่างชาติต่อไป เนื่องจากขณะนี้ตัวเลขบ้านมือสองของไทยทั้งระบบ มีไม่ต่ำกว่า 400,000 หน่วย จากเดิมที่มีเพียง 300,000 หน่วย หลังจากเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ปี 54 ทำให้มีที่อยู่อาศัยได้รับความเสียหายจำนวนมาก ส่งผลให้มีบ้านมือสองเพิ่มขึ้นอีก 100,000 หลัง แต่อย่างไรก็ตาม หากดูข้อมูลการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ประเภทต่าง ๆ พบว่ายอดการโอนกรรมสิทธิ์บ้านมือสองในแต่ละปี สัดส่วนไม่น้อยกว่าบ้านใหม่ แสดงให้เห็นถึงความต้องการบ้านมือสองยังมีต่อเนื่องโดยเฉพาะในทำเลกทม.และปริมณฑล“เมื่อบ้านมือสอง อยู่ในความต้องการซื้อของตลาด จึงจำเป็นต้องพัฒนาวิชาบุคลากร เพื่อทำหน้าที่บริการประชาชน จึงได้จัดทำคู่มือมาตรฐานอาชีพ และคุณวุฒิวิชาชีพ เพื่อสร้างมาตรฐาน และคุณภาพของผู้ที่อยู่ในอาชีพนายหน้าอสังหาฯ ไทย ให้มีความสามารถ และประสิทธิภาพในการทำงานเทียบเท่า หรือสูงกว่าผู้ที่มีอาชีพนี้จากประเทศอื่น ๆ เพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(เออีซี)ในปี 58”ที่ผ่านมาสมาคมฯ ได้ร่วมกับสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ สำนักนายกรัฐมนตรี จัดทำมาตรฐานวิชาชีพนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ เพื่อให้ผู้ที่อยู่ในอาชีพนี้มีมาตรฐานการทำงาน และได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น เหมือนกับประเทศอื่น ๆ ที่ใช้มาตรฐานดังกล่าวอย่างเป็นทางการแล้ว เช่น มาเลเซียสิงคโปร์ ฮ่องกง อเมริกา แต่ในไทยนั้น แม้ว่ามีการซื้อขายผ่านนายหน้ามานาน แต่ยังไม่มีพ.ร.บ.ออกมาบังคับใช้ จึงเชื่อว่าการดำเนินการดังกล่าว จะเป็นแนวทางหนึ่งในการส่งเสริมและพัฒนาวิชาชีพนายหน้าฯ รวมทั้งควบคุมให้อยู่ในระเบียบ และแนวทางปฏิบัติให้สอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐ“เร็ว ๆ นี้จะนำเสนอผลการจัดทำมาตรฐานอาชีพ ต่อคณะกรรมการเพื่อพิจารณาเห็นชอบและจะจัดประชาพิจารณ์เพื่อเสนอผลการจัดทำมาตรฐานอาชีพและรับฟังความคิดเห็น โดยเชิญผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องจากทุกภาคเข้าร่วมแสดงความคิดเห็น ซึ่งได้กำหนดประชาพิจารณ์ไว้กทม. 5 ก.ย.นี้ ส่วนต่างจัวหวัดคือที่ จ.นครราชสีมา 13 ก.ย. จ.ขอนแก่น 27 ก.ย. จ.ภูเก็ต 4 ต.ค. จ.เชียงใหม่11 ต.ค. และเมืองพัทยา 18 ต.ค.นี้”

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : เร่งสร้างมาตรฐานนายหน้าอสังหา

Posts related