เป็นหนึ่งในโครงสร้างพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่สำคัญของประเทศ กับอุทยานวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทย โดยเฉพาะเฟส 2  ที่เน้นการส่งเสริมให้บริษัทชั้นนำจากต่างประเทศเข้ามาทำวิจัยและพัฒนาในประเทศไทย ล่าสุด…บริษัทโพลีพลาสติกส์ มาร์เก็ตติ้ง (ที) จำกัด ผู้ผลิตพลาสติกวิศวกรรมยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นทุ่มเงินกว่า 50 ล้านบาท เปิด “ศูนย์บริการงานเทคนิคแห่งอาเซียน” หรือ ASEAN Technical Solution Center ที่อาคารกลุ่มนวัตกรรม 2 ในอุทยานวิทยาศาสตร์ฯ รังสิตแห่งนี้ เพื่อรองรับการให้บริการลูกค้าในอาเซียนอินเดีย   “ดร.ทวีศักดิ์ กออนันตกูล” ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ( สวทช.) บอกว่า โพลีพลาสติกส์เป็นบริษัทเอกชนรายแรก ๆ ที่เข้ามาอยู่ในอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2546 โดยเป็นผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายชั้นนำระดับโลกด้านวิศวกรรมพลาสติก ทั้งในประเทศญี่ปุ่น อาเซียน จีน อินเดีย อเมริกาใต้ ยุโรป กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ รวมถึงอุปกรณ์อิเล็ก ทรอนิกส์ อุปกรณ์เครื่องมือและวัสดุภัณฑ์ทางการแพทย์ อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า เนื่องจากบริษัทมองเห็นทิศทางการขยายตัวของเศรษฐกิจในภูมิภาคอาเซียนที่มีอย่างต่อเนื่องจึงขยายฐานการให้บริการลูกค้าและเลือกเปิดศูนย์บริการงานเทคนิคแห่งอาเซียนขึ้นในประเทศไทย ศูนย์บริการนี้จะให้บริการคำปรึกษาทางด้านการออกแบบหรือปรับปรุงพัฒนาผลิตภัณฑ์พลาสติกด้านวิศวกรรมด้วยเทคโนโลยีและเครื่องมือวิทยาศาสตร์ที่ทันสมัย เจ้าหน้าที่ของโพลีพลาสติกส์บอกว่า ผู้ผลิตชิ้นส่วนพลาสติกมักเกิดปัญหาว่าชิ้นงานที่ออกแบบมานั้น จะสามารถนำไปขึ้นรูปได้หรือไม่ หรือหากเกิดการแตกหักก็ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไรศูนย์นี้คือคำตอบ โดยนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาช่วยบริการลูกค้าเข้าไปช่วยในทุกขั้นตอน ตั้งแต่ออกแบบ ซึ่งจะมีโปรแกรมคอมพิวเตอร์จำลองแบบมาช่วยให้สามารถเลือกวัสดุที่เหมาะสมกับงาน การใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อวิเคราะห์คุณสมบัติเชิงกล การสร้างแบบแม่พิมพ์และจำลองการฉีดขึ้นรูปผลิตภัณฑ์พลาสติก ที่เหมาะสมช่วยลูกค้าให้วางแนวทางอย่างเป็นระบบ และผลิตชิ้นงานได้เรียบร้อย ตลอดจนสามารถที่จะทดสอบและวิเคราะห์ได้ว่ามีปัญหาใด ๆ บ้างโดยไม่ทำลายชิ้นงาน ดร.ทวีศักดิ์ บอกว่า ที่ผ่านมา สวทช.มีความร่วมมือกับบริษัทชั้นนำที่เข้ามาทำวิจัยและพัฒนาในอุทยานวิทยาศาสตร์ ซึ่งปัจจุบันมีกว่า 60 บริษัททำให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้และพัฒนางานวิจัยที่ตอบโจทย์ภาคอุตสาห กรรมได้มากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามคาดว่าจะมีอีก 150 บริษัท เข้ามาอยู่ในอาคารกลุ่มนวัตกรรม 2 แห่งนี้ซึ่งกลุ่มอุตสาหกรรมที่ต่างประเทศให้ความสนใจที่จะเข้ามาทำวิจัยก็คือด้านชิ้นส่วนยานยนต์ และด้านอาหารและการเกษตรนั่นเอง   …ฝากไว้กับการผลักดันให้เป็นยุทธศาสตร์ของประเทศ…เพื่อให้ไทยกลายเป็นศูนย์กลางแห่งการวิจัยและพัฒนาในอาเซียนไม่ใช่ใช้เงินซื้อเทคโน โลยีอย่างเดียว !!!. นาตยา คชินทร nattayap.k@gmail.com

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : เลือกไทยตั้งศูนย์บริการงานเทคนิคแห่งอาเซียน

Posts related