นายเมธี สุภาพงษ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ประเมินว่า ทั้งปีนี้ เศรษฐกิจไทยจะเติบโตขึ้นได้ 1.5% จากเดิมที่คาดว่าจะติดลบต่ำกว่า 1% และปีหน้าจะกลับมาเติบโตได้ตามปกติที่ 5.5% จากเดิมที่คาดไว้เพีย 4.8% หลังจากที่ไตรมาสแรกเศรษฐกิจหดตัวมากกว่าที่คิดไว้ แต่มาไตรมาส 2 มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ซึ่งทำให้นโยบายภาครัฐชัดเจนขึ้น ส่งผลให้ทั้งภาคประชาชนและนักลงทุนมีความเชื่อมั่น กลับเข้ามาลงทุน จึงประเมินว่าครึ่งปีหลังนี้ภาวะเศรษฐกิจจะฟื้นตัวขึ้นเป็นรูปตัววี และฟื้นตัวเร็ว จนกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ในปีหน้า “ครึ่งปีแรกเศรษฐกิจติดลบ 0.5% จากการส่งออกที่ฟื้นตัวช้า แต่ครึ่งปีหลังนี้ เชื่อว่าจะโตได้ 3.4% จากการลงทุน และการบริโภคภาคเอกชน ที่เริ่มฟื้นตัว โดยเฉพาะจากการที่คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) อนุมัติโครงการที่คั่งค้างไว้จำนวนมาก ส่งผลให้เอกชนกลับเข้ามาลงทุนมากขึ้น ด้านภาครัฐก็มีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากนโยบายด้านการคลัง โดยคาดว่าการเบิกจ่ายงบประมาณปี 57 จะเพิ่มจากเดิมที่ประมาณการ 90.5% เป็น 93% และงบประมาณปี 58 เป็น 93.5% แต่ทั้งนี้มองว่า เศรษฐกิจที่หดตัวแรงนี้ ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการว่างงานเท่าใดนัก อีกทั้งนโยบายการเงินยังผ่อนคลายเพียงพอที่จะสนับสนุนให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้”  ส่วนภาวะเงินเฟ้อนั้นมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยเงินเฟ้อฟื้นฐานปรับเพิ่มขึ้นจากเดิมที่คาดว่า 1.5% เป็น 1.7% และปีหน้าจาก 1.3% เป็น 1.4% ด้านเงินเฟ้อทั่วไปเพิ่มจาก 2.5% เป็น 2.6% และปีหน้าจาก 2.3% เป็น 2.5% จากแรงกดดันด้านต้นทุน โดยเฉพาะราคาก๊าซหุงต้มที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ส่งผลกระทบให้ราคาสินค้าเพิ่มขึ้นตามไปด้วย โดยเฉพาะในหมวดอาหารสำเร็จรูปต่าง ๆ รวมทั้งแรงกดดันจากเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวขึ้น ทำให้มีกำลังซื้อสูงขึ้นตามไปด้วย ขณะที่ปัญหาความขัดแย้งในอิรัก อาจส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันดิบในดูไบให้เพิ่มขึ้นในระยะสั้นอีกด้วย แต่อย่างไรก็ดี โดยภาพรวมแล้ว ถือว่าเงินเฟ้อยังอยู่ในกรอบเป้าหมายที่ธปท.วางไว้

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : เศรษฐกิจฟื้นรูปตัววี

Posts related