วันนี้(16พ.ค.)พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์แห่งชาติ(กสทช.)และประธานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม(กทค.)เปิดเผยว่า คลื่นความถี่ย่าน 900เมกะเฮิร์ตซ ของบริษัท ทีโอที จำกัด(มหาชน) โดยมีบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด(มหาชน) หรือเอไอเอส เป็นคู่สัญญาสัมปทาน ซึ่งจะหมดสัมปทานปี 2558 นำไปประมูลเดือนพ.ย.57 เห็นด้วยที่จะให้มีการกำหนดถือครองคลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิร์ตซ เพื่อป้องกันการเอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้ประกอบการรายใหญ่นอกจากนี้ได้ตรวจสอบว่าราคาตั้งต้นการประมูลคลื่น 900 เมกะเฮิร์ตซนี้สูงเมื่อเทียบกับหลายประเทศ โดยคำนวณจากคณะผู้เชี่ยวชาญของสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ(ไอทียู) ซึ่งได้คำนึงถึงสภาวะการณ์และปัจจัยต่างๆของไทยแล้ว และถ้าหากตั้งราคาตั้งต้นสูงเกินไปจะกระทบต่อผู้บริโภค อาจมองว่าเอื้อผู้ประกอบการรายใหญ่ ไม่มีหลักวิชาการรองรับ และจะทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะทำให้การประมูลล้มเหลว ในขณะเดียวกันหากเน้นเรื่องการทำรายได้ให้รัฐมากเกินไปก็จะขัดต่อวัตถุประสงค์เชิงนโยบายและกฎหมาย ซึ่งมีความเสี่ยงอย่างยิ่งที่จะทำให้การประมูลล่มพ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ กล่าว่า นอกจากนี้คลื่นความถี่ย่าน 1800 เมกะเฮิร์ตซที่หมดสัญญาสัมปทานและยังอยู่ในช่วงการเยียวยาคุ้มครองผู้บริโภคซึ่งจะครบกำหนดวันที่ 15ก.ย.นี้ พบว่ายังมีเลขหมายที่ไม่ได้โอนย้ายออกจากระบบจำนวน 4 ล้านเลขหมาย โดยให้สังเกตหากเป็นเลขหมายที่อยู่ในระบบ 1800 เมกะเฮิรตซ์ทุกเลขหมายจะมีการแจ้งเตือนเอสเอ็มเอส จาก กสทช.ให้ทำการโอนย้ายไปใช้งานในเครือข่ายอื่นก่อนวันที่ 15 ก.ย .57 เพราะในวันที่ 16 ก.ย.57 จะไม่สามารถใช้งานเลขหมายเดิมต่อไป

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : “เศรษฐพงค์”ชี้ราคาประมูล900เมกะเฮิร์ตซเหมาะสม

Posts related