นายรังสรรค์ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังงานสัมมนา เรื่องหยุดคอร์รัปชั่นเพื่อประเทศไทยก้าวไปข้างหน้า ว่ากระทรวงการคลังเตรียมเสนอแก้ไขระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างตามระเบียบสำนักงานนายกรัฐมนตรีพ.ศ.2535 ให้เป็นพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ให้ทันภายในรัฐบาลชุดนี้ เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและป้องกันการทุจริต ไม่ให้นักการเมืองมาแก้ไขการจัดซื้อจัดจ้างได้ เนื่องจากปัจจุบันระเบียบดังกล่าวดำเนินการเพียงได้รับความเห็นชอบจากครม.เท่านั้น แต่หากแก้ไขเป็น พ.ร.บ.จะทำให้การจัดซื้อจัดจ้างต้องผ่านการพิจารณาของสภาที่จะทำให้เกิดการแก้ไขได้ยากขึ้น โดยที่ผ่านมากระทรวงการคลังได้ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวไว้แล้วและจะนำมาพิจารณาปรับใช้ใหม่ให้ทันกับสถานการณ์อีกครั้ง “คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ให้ความสำคัญในการปราบปรามคอร์รัปชั่นทุกหน่วยงานซึ่งจะดำเนินการอย่างเฉียบขาด เพื่อป้องกันการทุจริต ถือเป็นวาระแห่งชาติที่จะปลูกจิตสำนึกคนไทยต้องไม่ยอมให้เกิดการทุจริตคอร์รัปชั่นในประเทศ โดยปี 56 ที่ผ่านมา ไทยได้รับการจัดอันดับจากองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติหรือดัชนีวัดภาพลักษณ์คอร์รัปชัน ปี 56 พบว่าอยู่ที่ 102 จากการจัดอันดับทั้งหมด 177 ประเทศทั่วโลก ได้เพียง35 คะแนน จาก 100 คะแนนและอยู่อันดับที่ 16 จาก 28ประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก” ม.ล.ปนัดดาดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าปัญหาคอรัปชั่นเป็นปัญหาสำคัญของประเทศ โดยพบว่าตั้งแต่ คสช. เข้ามาบริหารประเทศเมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมามีการร้องเรียนปัญหาทุจริตของส่วนราชการ ผ่านสายด่วน 1111เพิ่มขึ้นเป็น 4 เท่า ซึ่งปัญหาคอรัปชั่นดูรุนแรงตั้งแต่รัฐบาลชุดพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษพ้นออกจากตำแหน่ง โดยปัญหาที่พบส่วนใหญ่เป็นการใช้งบประมาณเพื่อไปศึกษาดูงานอย่างไม่เหมาะสมและการวางตัวของเจ้าหน้าที่ราชการที่ไม่เหมาะสม “การทำความดีเป็นเรื่องธรรมชาติของคน แต่ข้าราชการที่ออกนอกลู่นอกทางถือเป็นพวกที่ผิดธรรมชาติ เหมือนกับประโยคหัวไม่ส่ายห่างไม่กระดิกที่เปรียบกับการทำงานของข้าราชการเพราะหากหัวมีความสง่างามลูกน้องก็จะไม่ออกนอกแถว แต่ถ้าหัวส่ายลูกน้องก็จะทำตามถือเป็นเรื่องที่สำคัญในการตรวจสอบปัญหาการทุจริต”  

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : เสนอแก้ระเบียบจัดซื้อจัดจ้างเป็นพ.ร.บ.

Posts related