วันนี้ (30ก.ค.) ที่คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์ท่าพระจันทร์ โครงการติดตามนโยบายสื่อและโทรคมนาคม(NBTC Policy Watch ) ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย(สกว.) เสวนาเรื่อง " การเลื่อน-เลิกประมูล 4 จี ใครได้ -ใครเสีย : รัฐ ผู้ประกอบการ ประชาชน ? จากกรณีที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ได้สั่งชะลอการประมูลคลื่นความถี่ย่าน 1800 เมกะเฮิร์ตซ สำหรับให้บริการ 4 จี ออกไปเป็นระยะเวลา 1 ปี พร้อมทั้งให้คงมาตรการเยียวยาดูแลลูกค้าไปจนกว่าการจะมีการประมูลใหม่ เพื่อเป็นการคุ้มครองผู้ใช้บริการสาธารณะนางสาวสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เปิดเผยว่า จากการเลื่อนประมูลครั้งนี้ ปัญหาที่เกิดขึ้นมาจาก กสทช. ที่มีความล่าช้าในการนำคลื่นความถี่ 1800 เมกะเฮิร์ตซ โดยกสทช. ควรเร่งดำเนินการประมูลก่อนที่ อายุสัญญาสัมปทานก่อนวันที่ 15 ก.ย.56 จึงประกาศเกี่ยวกับมาตรการเยียวยาลูกค้าในระบบให้มีการใช้บริการต่อเนื่องอีก1ปี จึงไม่ต่างจากการขยายอายุสัญญาสัมปทานออกไป อีก 1 ปี ซึ่งส่งผลให้บริษัท ทรูมูฟ และ บริษัท ดิจิตอลโฟน จำกัด (ดีพีซี ) ได้รับผลประโยชน์กว่า 6,800 ล้านบาท โดยจากนี้ต้องพิจารณาการโอนย้ายลูกค้าออกจากระบบให้ง่ายและสะดวกต่อผู้บริโภค รวมถึงการเร่งประชาสัมพันธ์ แจ้งเตือนลูกค้าในระบบเช่นกันนายธีระ กนกกาญจนรัตน์ นักวิเคราะห์อาวุโสด้านไอซีที บริษัท ฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน เปิดเผยว่า การเลื่อนประมูล 4 จี ครั้งนี้ ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของธุรกิจ การแข่งขัน รวมถึงการลงทุนด้านโทรคมนาคม ส่งผลต่อการจ้างงานในอุตสาหกรรม และผู้ประกอบการโทรคมนาคมถูกผลกระทบ เนื่องจากปัจจุบันผู้บริโภคมีความต้องการใช้งานด้านข้อมูลมากกว่าด้านเสียง แต่ในขณะเดียวกันการเลื่อนประมูลครั้งนี้ อาจจะช่วยส่งผลดีในแง่ของผู้ให้บริการมีเวลาพัฒนาเทคโนโลยีการลงทุน 4 จี ให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น เนื่องจาก 4 จี ถือว่าเป็นการเปิดทางสร้างโอกาสทางธุรกิจ โดยตัวอย่างในประเทศเกาหลี ญี่ปุ่น เปิดให้บริการ 4 จี ผู้ใช้งานด้านข้อข้อมูลปรับสูงขึ้นเกือบเท่าตัว อาจช่วยเปิดประตูสร้างการพัฒนาด้านดร.พรเทพ เบญญาอภิกุล เปิดเผยว่า การจัดสรรคลื่นด้วยการประมูลถือว่าเป็นวิธีที่โปร่งใสและมีประสิทธิภาพที่สูงสุด เนื่องจากการประมูลเปิดให้มีการแข่งขันด้านราคา ซึ่งแสดงถึงความต้องการใช้คลื่นที่แท้จริงมากกว่าการจัดสรรคลื่นแบบวิธีคัดเลือกผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสม (บิวตี้ คอนเทสต์) และการใช้รูปแบบบิวตี้ คอนเทสต์ มีความโปร่งใสน้อยกว่า อาจจะไม่มีความเป็นธรรมต่อการคัดเลือกใบอนุญาตประกอบกิจการ และเป็นการใช้ดุลยพินิจที่อาจเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ได้ง่าย
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : เสวนาเลื่อน4 จี ใครได้ใครเสียผลประโยชน์
Posts related
- ธุรกิจน้ำดื่มใสสะอาด เพราะชีวิตขาดน้ำไม่ได้!
- ธุรกิจเสื้อผ้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจส่งออกสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านดอกไม้กับความรัก ความยินดี และ ความสดชื่นของชีวิต
- ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่พัก ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านกาแฟ คุณคิดว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะมีสักกี่วันที่หยุดดื่ม? น่าลองขายนะ!
- ธุรกิจซักอบรีด รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจร้านเบเกอรี่ รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจขายส่งสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- อาชีพเสริมรายได้เสริม เมื่อมีรายได้หลายทางย่อมดีกว่ารายได้ทางเดียว
- 10 อาชีพเสริมที่น่าสนใจ
- อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้แล้วจะรวยตอนไหน?
- ธุรกิจสปา ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจคาร์แคร์ ดีไม?ดียังไง?
- 6 รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ
- 5 Trendsของยุค2020ที่จะนำไปสู่ธุรกิจชั้นนำที่น่าสนใจ
- แบบทดสอบประเมินตัวคุณเป็นยังไงและควรจะทำธุรกิจแนวไหนดี
- ความแตกต่างระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับอาชีพอื่นๆ
- จะเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างไร
- 5 ขั้นตอนการเริ่มต้นเปิดร้านค้าออนไลน์
- เทคนิคในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ
- ทำไมต้องธุรกิจแฟรนไชส์ ดียังไง
- 5 เทคนิคควรรู้ก่อนตั้งชื่อธุรกิจออนไลน์
- 5 สิ่งที่ต้องห้ามเมื่่ออยากทำธุรกิจส่วนตัว
- 7 เทคนิคพื้นฐานสร้างธุรกิจSMEให้รอด
- จะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวยังไงเริ่มจากไหนดี?
- ทำไมจะต้องทำธุรกิจส่วนตัว?
- ความรู้เบื้องต้นความหมายธุรกิจSMEs