นายสุธีเกตุศิริ กรรมการผู้จัดการกลุ่มบิวท์ทู บิวด์ จำกัด เปิดเผยว่าภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านไตรมาสแรกปีนี้ชะลอตัวต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากเหตุการณ์ไม่สงบทางการเมืองและเศรษฐกิจที่ขาดสภาพคล่องส่งผลกระทบทั้งด้านการค้าการลงทุนจากต่างประเทศก็หดตัวลงขณะที่ราคาสินค้าและพลังงานสูงขึ้นอย่างต่อนเองซึ่งต้องยอมรับว่าสร้างแรงกดดันต่อการตัดสินใจของผู้ประกอบการและผู้บริโภคเป็นอย่างมากในด้านของความเชื่อมั่นและไม่กล้าตัดสินใจในขณะนี้แต่ทั้งนี้เชื่อว่าหากปัญหาทางด้านการเมืองคลี่คลายลงและมีทิศทางที่ชัดเจนมากขึ้นจะสามารถช่วยให้สถานการณ์ทางเศรษฐกิจฟื้นตัวดีขึ้นตามลำดับอีกทั้งเชื่อว่ายังผู้บริโภคยังต้องการและมีกำลังซื้ออยู่จำนวนมากเพียงอยู่ในช่วงของการรอดูสถานการณ์ให้แน่ชัดก่อนเท่านั้นจึงเชื่อว่าจะทำให้ตลาดรับสร้างบ้านในช่วงไตรมาสที่เหลือนั้นดีขึ้นตามไปด้วยโดยในส่วนของบริษัทแม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากปัญหาข้างต้นด้วยก็ตามแต่คงไม่หยุดนิ่งเพราะจะยิ่งทำให้ผู้บริโภคชะลอตัวมากยิ่งขึ้นอีกทั้งมั่นใจว่าลูกค้ายังต้องการสร้างบ้านอยู่ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทฯได้ปรับตัวรับมือสถานการณ์ปัจจุบันในหลายๆ ด้านไปบ้างแล้วทั้งการพัฒนาระบบการก่อสร้างคิดค้นพัฒนาแบบบ้านใหม่ ๆกลยุทธ์ทางด้านการตลาดการทำสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางต่างๆอาทิเช่น สื่อโฆษณาโทรทัศน์สื่อวิทยุ สื่อสิ่งพิมพ์และการออกบูธแสดงสินค้าเพื่อสร้างการจดจำให้แก่ผู้บริโภคพร้อมด้วยโปรโมชั่นที่นำมาดึงดูดกำลังซื้อของผู้บริโภคให้เกิดการตัดสินใจได้ง่ายยิ่งขึ้นด้านแผนงานการตลาดนั้นยังเน้นไปที่การพัฒนาระบบการก่อสร้างสำเร็จรูปที่มีคุณภาพคิดค้นนวัตกรรมการสร้างบ้านสมัยใหม่ที่ตอบโจทย์ความต้องการทุกสถานการณ์ได้อย่างถูกจุดครอบคลุมความต้องการลูกค้าทุกกลุ่มราคาที่สำคัญควบคุมคุณภาพและมาตรฐานการสร้างบ้านซึ่งล่าสุดบริษัทได้พัฒนาแบบบ้านใหม่ระดับราคา8-10ล้านบาทถึง 12แบบรวมทั้งเตรียมนำแบบบ้านใหม่ไปจัดแสดงในงานโฮม บิ้วเดอร์ โฟกัส 2014ที่สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านจัดขึ้นระหว่างวันที่13-16มี.ค.นี้ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ด้วย

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : เอกชนยังหวังธุรกิจรับสร้างบ้านยังโตได้

Posts related