นางเพ็ญทิพย์ พรจะเด็ด นายกสมาคมส่งเสริมผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทย (เอทีเอสเอ็มอี) เปิดเผยว่า วันที่ 2 ก.ค. จะนำตัวแทนเอสเอ็มอีทั้ง 5 ภาคได้แก่ภาคเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ ใต้ กลาง และตะวันออก เข้าประชุมร่วมกับนายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม รวมถึงผู้บริหารกระทรวงฯ เพื่อเดินหน้าจัดตั้งสภาเอสเอ็มอี หลังจากที่ได้ประชุมร่วมกัน ร่วมกับหน่วยงานมาแล้ว 3 ครั้งสำหรับความคืบหน้าการตั้งสภาเอสเอ็มอี ขณะนี้ ได้ร่างโครงสร้างกรอบการทำงานรวมถึงกฎหมายรองรับไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเบื้องต้น โครงสร้างจะไม่ต่างจากสภาอื่น ๆ เช่นสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) หรือ สภาหอการค้าไทย ที่จะมีประธาน มีรองประธานดูแลด้านต่าง ๆ รวมถึงมีสภาเอสเอ็มอี กระจายตามจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ จะนำเสนอต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ต่อไป และถ้ามีความเป็นไปได้ ต้องการตั้งกระทรวงเอสเอ็มอี ขึ้นมาดูแลโดยเฉพาะส่วนกรณีสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ไม่เห็นด้วย เพราะเห็นว่า เป็นการตั้งหน่วยงานซ้ำซ้อนนั้น ประเด็นนี้ ตนไม่ต้องการตอบโต้ เพราะคิดว่า ส.อ.ท. ยังไม่เข้าใจในรายละเอียด เพราะปัจจุบันผู้ประกอบการเอสเอ็มอี มีกว่า 2.7 ล้านราย แต่เป็นสมาชิกของ ส.อ.ท. หรือสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ไม่ถึงแสนราย ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในระดับกลาง เพราะมีข้อจำกัดในเรื่องต้องมีใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน (รง.4) ที่เหลืออีกกว่า 2 ล้านราย ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการขนาดเล็ก จึงไม่เวทีในการแสดงความคิดเห็น หรือสะท้อนปัญหาที่แท้จริง“การที่มีคสช. ถือเป็นโอกาสดี ที่จะผลักดันให้มีการปฏิรูปดูแลผู้ประกอบการเอสเอ็มอีอย่างแท้จริง โดยการตั้งสภาเอสเอ็มอี จากที่เราเคยผลักดันมาตั้งแต่ 2 ปีก่อนหน้านี้ แต่ก็มีปัญหามาตลอด โดยเฉพาะในช่วงที่มีรัฐบาลปกติที่การตั้งสภาต่างๆ ต้องมีกฎหมายรองรับต้องผ่านขั้นตอนทางสภาฯ รวมถึงมีปัญหาการเมือง แต่ตอนนี้คาดว่า คสช. ซึ่งให้ความสำคัญกับเอสเอ็มอีและการสร้างงานของประเทศจะผลักดันเรื่องนี้ให้ออกมาได้เร็ว”อย่างไรก็ตามอยากให้ดูตัวอย่างของมาเลเซีย ที่เดิมก็ไม่มีสภาเอสเอ็มอี ไม่มีหน่วยงานที่เหมือนสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) แต่เมื่อได้มาดูงาน สสว. ที่ประเทศไทย ต่อมาก็มีการตั้ง สภาเอสเอ็มอี ซึ่งเป็นรูปแบบเดียวกับอีกว่า 70 ประเทศทั่วโลก ทำให้เอสเอ็มอีของมาเลเซียเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา โดยหากไทยไม่แก้ปัญหาตรงนี้ จะทำให้เอสเอ็มอีอ่อนแอ และไม่สามารถแข่งขันกับเพื่อนบ้านได้ในช่วงที่กำลังจะเปิดเออีซี โดยเฉพาะกับประเทศอาเซียนที่มีระดับการพัฒนาใกล้เคียงกัน

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : เอกชนลุยตั้งสภาเอสเอ็มอี

Posts related