นายไชยยันต์ชาครกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้จำกัด (มหาชน)เปิดเผยว่าบริษัทได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมืองที่ส่งผลให้ยอดขายในเดือนม.ค.ที่ผ่านมาลดลงถึง20%จากเดือนธ.ค.56 รวมทั้งมีลูกค้าเข้าเยี่ยมชมโครงการลดลงด้วยเช่นกันดังนั้น ในช่วงครึ่งปีแรกนี้บริษัทจะยังไม่เปิดตัวโครงการใหม่แต่อย่างใดจนกว่าปัญหาทางการเมืองจะยุติลง พร้อมทั้งจะหันไปสร้างที่อยู่อาศัยในกลุ่มระดับกลางถึงล่างราคา 1-2ล้านบาทมากขึ้นและเน้นการก่อสร้างแนวราบเป็นหลักโดยยืนยันว่าหากการเมืองยังยืดเยื้ออยู่ก็จะไม่เปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมแน่นอนและเชื่อว่าปีนี้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์เกือบทุกรายชะลอการเปิดตัวโครงการใหม่ออกไปกันหมด อย่างไรก็ตามมองว่า ปีนี้คงจะไม่รับราคาขายบ้านเพิ่มขึ้นเพราะต้นทุนด้านวัสดุก่อสร้างไม่ได้ปรับเพิ่มขึ้นเนื่องจากผู้ประกอบการวัสดุก่อสร้างไม่กล้าขึ้นราคาหลังจากที่ยอดขายลดลงเพราะรับผลกระทบจากการเมืองเช่นกัน “พร้อมกันนี้บริษัทได้ปรับแผนกลยุทธิ์การดำเนินงานใหม่โดยหันมาเน้นตลาดที่อยู่อาศัยระดับกลางถึงล่างจากเดิมที่จะเน้นตลาดกลางถึงบนและช่วงครึ่งปีแรกนี้คงจะไม่เปิดตัวโครงการอะไรเพื่อรอดูสถานการณ์ทางการเมืองก่อนแล้วค่อยไปเปิดตัวโครงการใหม่ช่วงครึ่งปีหลัง6-8โครงการรวมมูลค่า 4,000ล้านบาทและเน้นแนวราบเท่านั้นรวมถึงออกไปต่างจังหวัดมากกว่าในกทม.ทั้งในหัวเมืองหลักและหัวเมืองชั้นรองโดยเฉพาะภาคตะวันออกภาคตะวันออกเฉียงเหนือโดยยังคงเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการที่แท้จริงพร้อมทั้งตั้งเป้าหมายรายได้ปีนี้2,700ล้านบาทเพิ่มขึ้น 10-15%จากปีก่อนและเป้าหมายยอดขาย 3,200ล้านบาท” ช่วง1-2ปีที่ผ่านมาบริษัทได้ขยายโครงการไปต่างจังหวัดแล้ว6 โครงการในเขตจ.ชลบุรีระยอง ฉะเชิงเทรา และ นครราชสีมาซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีแต่ปีนี้คาดว่าจะเปิดตัวโครงการใหม่ไตรมาสสุดท้ายของปีนี้โดยระหว่างนี้อาจจะหาซื้อที่ดินเตรียมไว้ก่อนโดยมีวงประมาณ 900ล้านบาทซึ่งปัจจุบันยังมีงานในมือ(แบล็คล็อค)อยู่1,300ล้านบาทและรับรู้รายได้ 1,000ล้านบาท “ปีนี้แม้จะมีปัจจัยเสี่ยงหลายอย่างแต่บริษัทได้วางแผนกระจายความเสี่ยงไว้ล่วงหน้า2-3 ปีโดยบริหารอย่างรัดกุมควบคุมความเสี่ยงรวมถึงควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้ดีขึ้นทำให้ค่าใช้จ่ายอยู่ในงบส่งผลให้มีสภาพคล่องดีมีอัตราหนี้สินต่อทุนต่ำจึงยังมีโอกาสขยายการลงทุนได้อีก”

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : เอกชนหยุดแผนผุดคอนโด

Posts related